สีไฟห้อง เคล็ดลับ วิธีเลือก แสงไฟ อย่างไรให้เหมาะสม

สีไฟห้อง เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพื่อทดแทนหรือเพิ่มเติมความสว่างจากแสงธรรมชาติ เพื่อให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย หรือเป็นการเพิ่มความสว่างให้กับมุมอันมืดทึบของบ้านทั่วไป บ้านน็อคดาวน์  นอกจากนี้ แสงไฟยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตกแต่ง รูปแบบและดีไซน์ของไฟชนิดต่าง ๆ เป็นรายละเอียดหนึ่งที่สร้างเสน่ห์ให้กับบ้าน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ แสงไฟจะช่วยสร้างอารมณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันไป สามารถขับรายละเอียดของสถาปัตยกรรมให้โดดเด่น เน้นความสวยงามของของตกแต่งหรือรูปภาพให้เด่นขึ้น การออกแบบแสงไฟจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นสไตล์ และความน่าสนใจของงานตกแต่งเช่นกัน

 

โทนสีไฟ ที่นิยมนำมาแทนส่วนใหญ่มีทั้งหมด 3 ประเภท

  1. Warm White : แสงวอร์มไวท์ จะให้แสงสีเหลืองนวล สีโทนอุ่น ไม่เข้มจัดและสว่างมากนัก เป็นแสงที่สบายตา ผ่อนคลาย โรแมนติก เป็นแสงที่ใช้สร้างบรรยากาศมากที่สุด                                                                           
  2. Cool White : แสงคูลไวท์ เป็นแสงที่ให้สีขาวนวลแต่ไม่จัด มีความสว่างมากกว่าแสงวอร์มไวท์ เรียกได้ว่าเป็นแสงกลางๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้กับหลายพื้นที่ ทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนมากขึ้น                              
  3. Daylight : แสงเดย์ไลท์ เป็นแสงสีขาวโทนฟ้า ให้ความสว่างชัดเจน ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดี และเป็นแสงที่ช่วยให้รู้สึกตื่นตัวอีกด้วย

 

เลือก สีไฟห้อง อย่างไรให้เข้ากับบ้านของเรา

  1. แสงไฟหน้าบ้านและประตูทางเข้า : บริเวณหน้าบ้านและบริเวณประตูทางเข้าถือเป็นจุดแรกของบ้านที่สามารถสร้างความประทับใจให้ทั้งกับคนอยู่เองและแขกที่มาเยือน ดังนั้น การใช้แสงไฟเสริมบรรยากาศ จะทำให้บ้านน่าอยู่และเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวบ้านมากยิ่งขึ้น
  2. แสงไฟห้องนั่งเล่น : ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรม พักผ่อน และรับแขกซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางของบ้านที่ใช้สอยแบบอเนกประสงค์ แสงไฟที่ใช้จึงควรปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน และกิจกรรมนั้นๆ
  3. แสงไฟห้องนอน : ห้องนอนเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนในยามนอนหลับ เป็นพื้นที่ที่เราใช้ผ่อนคลายจากสิ่งต่างๆ ถือเป็นห้องที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน ดังนั้น การสร้างบรรยากาศห้องนอนให้มีความสงบ อบอุ่น พร้อมแก่การนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้สำคัญ
  4. แสงไฟห้องน้ำ : โดยปกติการออกแบบห้องน้ำ จะต้องมีช่องสำหรับระบายอากาศและเพื่อให้แสงธรรมชาติในเวลากลางวันเข้ามาสู่ตัวห้องน้ำเพื่อลดความอับชื้นอยู่แล้ว แต่สาวๆ หรือหนุ่มๆ หลายคนอาจจะใช้พื้นที่ห้องน้ำเป็นพื้นที่แต่งหน้า ทาครีม โกนหนวดด้วย ดังนั้น แสงไฟที่ใช้ควรให้โทนสีของแสงมีความชัดเจน ถูกต้อง
  5. แสงไฟห้องครัว : โดยปกติการออกแบบห้องครัวจะมีหน้าต่างเพื่อระบายอากาศและให้แสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อลดความอับชื้นและช่วยฆ่าเชื้อโรคเช่นเดียวกับห้องน้ำอยู่แล้ว แต่จะต่างตรงที่ห้องครัวสามารถออกแบบให้ช่องแสงหรือหน้าต่างใหญ่กว่าห้องน้ำ ดังนั้น ในเวลากลางวันเราอาจจะไม่ต้องเปิดไฟเลยก็ได้ ส่วนในเวลากลางคืนที่ต้องการความชัดเจนของแสงก็สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแสง Daylight และ Cool White
  6. แสงไฟห้องทำงาน : เชื่อว่าหลายๆ บ้านในปัจจุบัน ต้องมีการจัดสรรให้มีห้องทำงานภายในบ้านอย่างแน่นอน เนื่องจากการต้อง Work From Home หรือทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งห้องทำงานนอกจากใช้ทำงานแล้ว บางคนยังใช้สำหรับการประชุมออนไลน์อีกด้วย ดังนั้น ห้องทำงานก็เป็นอีกห้องที่ต้องสร้างบรรยากาศให้สวยดูดี มีความสงบ เพื่อให้มีสมาธิ พร้อมสำหรับทั้งการทำงานและการประชุม

นอกจากรายละเอียดการออกแบบภายในและภายนอกบ้านแล้ว การเลือกแสงไฟให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ภายในบ้านก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแสงไฟสามารถสร้างบรรยากาศ อารมณ์และความรู้สึกที่ดีให้กับบ้านได้ ซึ่งการเลือกแสงไฟให้เหมาะกับบ้านก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด และทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางในการเลือกใช้แสงไฟให้ถูกลักษณะภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน เพื่อเพิ่มความสว่างและความสวยงามให้กับภายในบ้าน ทำให้เกิดความน่าอยู่ให้กับบ้านหากเลือกใช้ไฟที่เหมาะสม