หน้าแรก
สินค้า
แชทไลน์

banner

กระเบื้องยาง ดีไหม 7 เหตุผล ที่คนหันมาเลือกใช้กันมากขึ้น

กระเบื้องยาง ดีไหม ? 7 เหตุผล ที่คนหันมาเลือกใช้กันมากขึ้น

กระเบื้องยาง ดีไหม ทำไมคนไทยถึงหันมาใช้วัสดุประเภทนี้เยอะขึ้น ! ปัจจุบันคนไทยนิยมหันมาสร้างบ้านและตกแต่งบ้านในสไตล์ยุโรปกันมากขึ้น หรือที่เราได้ยินติดหูเลยก็คือ สไตล์โมเดิร์น ซึ่งลักษณะตัวบ้านสมัยนี้ก็จะแตกต่างกับรูปทรงบ้านสมัยก่อนไปครับ ซึ่งด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา คนไทยจึงหันมาเลือกใช้วัสดุสังเคราะห์กันมากขึ้น เพราะหาง่ายติดตั้งง่ายทำเองได้ โดยเฉพาะพื้นบ้าน แทนที่จะเป็นพื้นไม้หรือซีเมนต์อย่างแต่ก่อน แต่ปัจจุบันผู้คนได้เลือกหันมาใช้กระเบื้องยางกันเป็นอย่างมากเพราะ สะดวก ทนทาน เลือกลายได้หลากหลาย มีความสวยงาม แถมราคาประหยัดคนจึงหันมาเลือกใช้กระเบื้องยางกัน นอกจากจะทำให้ห้องดูมีมีราคาแล้ว ยังทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นด้วย แต่การจะใช้ไม้จริงมาเป็นพื้นทั้งหลังแล้ว แน่นอนว่าราคาก็จะสูงกว่าเมื่อเทียบกับกระเบื้องยางลายไม้ นอกจะจะสวยงามเหมือนพื้นจริงและราคาไม่แพงแล้ว การใช้กระเบื้องยางลายหินอ่อนที่ให้ภาพลักษณ์หรูหรายังมีจุดเด่นที่ไม่ทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักมากถ้าเทียบกับการนำแผ่นหินอ่อนมาปูพื้นบ้านด้วย เจ้าตัวกระเบื้องนี้ยังมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างดีเลยล่ะครับ วันนี้เลยจะมาบอก 7 คุณสมบัติของเจ้ากระเบื้องยางกันว่ามีอะไรบ้างครับ

กระเบื้องยาง ดีไหม 7 เหตุผล ที่คนเลือกใช้

สาเหตุที่ 1 เลย เรื่องของ “การเก็บเสียง” โดยปกติแล้วเมื่อปูพื้นไปได้สักระยะหนึ่งจะเริ่มมีเสียงดัง เอี๊ยด อ๊าด เมื่อเดิมเหยียบย้ำลงไปบนพื้นไม้ แต่สำหรับกระเบื้องยางนี้กลับสามารถเก็บเสียงได้ดีไม่ทำให้เกิดเสียงใดๆ โดยเฉพาะบ้านหลายชั้นจะไม่ทำให้บ้านมีเสียงดังน่ารำคาญ

สาเหตุที่ 2 “เดินแล้วรู้สึกสบายเท้า” โดยปกติแล้วพื้นอาจให้ความสัมผัสที่ลื่นๆ รู้สึกเดินแล้วรู้สึกดีในตอนแรกแต่หากเดินไปนานๆอาจทำให้เท้าของเรารู้สึกถูกเสียดสีได้ง่าย แต่หากลองเปลี่ยนมาใช้กระเบื้องยาง จะทำให้รู้สึกสัมผัสพื้นที่เปลี่ยนไปคือ เดินแล้วไม่เกิดการเสียดสีของเท้ากับพื้นและที่สำคัญคือหากเดินแล้วอาจทำให้เกิดความรู้สึกนุ่มบริเวณที่เท้า

สาเหตุที่ 3 “ทนต่อรอบขีดข่วน” แน่นอนว่าหลายคนรับไม่ได้กับการที่พื้นมีรอยขีดข่วนอย่างแน่นอน หากเปลี่ยนมาใช้กระเบื้องยางแล้วจะหมดปัญหาเหล่านี้ไป เพราะกระเบื้องยางลายไม้สามารถทนต่อการขีดข่วนอย่างมาก

สาเหตุที่ 4 “กันน้ำกันชื้นกันไฟลุกลามแถมยังกันปลวกกินได้” กระเบื้องสามารถกันน้ำได้ทำความสะอาดได้ง่ายไม่ทำให้ชื้น ไม่ทำให้ไฟลุกลาม และตัวกรัเบื้องยางนะครับ เป็นเพียงแค่ PVC ลายไม้ จึงไม่สามารถเป็นอาหารให้กับปลวกได้ ยังไงล่ะครับ

สาเหตุที่ 5 “มีความยืดยุ่นไม่แตกหักได้ง่าย” เนื่องจากกระเบื้องยางลายไม้มีความยืดหยุ่นสูง จึงไม่ทำให้แตกหักง่าย ซึ่งก็จะมีความทนทานและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเลยล่ะ หรือหากมีส่วนไหนที่ต้องซ่อมแซมก็สามารถซ่อมแซมได้ง่ายและไม่ทำให้พื้นดูมีตำหนิเหมือนพื้นไม้อื่นๆ อีกด้วย

สาเหตุที่ 6 “มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน” เรื่องอายุการใช้งานต้องยกนิ้วให้กระเบื้องยางลายไม้เลยครับ เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 15-20 ปีเลยล่ะ แต่ก็ต้องดูที่ความหนาของชั้นเคลือบด้วยครับ เพราะยิ่งชั้นเคลือบหนาเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีอายุการใช้งานมากเท่านั้น แต่ก็อาจจะมีราคาแพงขึ้นตามความหนาของชั้นเคลือบเช่นกัน

สาเหตุที่ 7 “ราคาไม่แพงสามารถติดตั้งเองได้” ตัวกระเบื้องยางนี้นะครับส่วนมากที่พบเจอนั้นจะขายเป็นกล่องๆ แต่ละกล่องจะระบุตารางเมตรไว้ชัดเจน ราคาต่อกล่องจะเริ่มต้น 200 ขึ้นไปตามขนาดและความหนาของแผ่นครับ หาซื้อได้ง่ายสามารถติดตั้งเองได้ประหยัดเงินไปกับการที่จะจ้างช่างไปได้เลยล่ะครับ และทั้งหมดนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมคนไทยถึงนิยมหันมาใช้กระเบื้องยางลายไม้กันครับ ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับการปูไม้ทั้งหลังแถมยังสามารถติดตั้งเองได้ ทนทานต่อการใช้งานและสวยงามไม่แพงพื้นไม้จริงๆ เลยล่ะครับ

วิธีเลือก กระเบี้อง ปูห้องน้ำ อย่างไร ให้เหมาะสม ปลอดภัย

วิธีเลือกซื้อ กระเบี้อง ปูห้องน้ำ อย่างไร ให้เหมาะสม ปลอดภัย ไม่ลื่น

กระเบี้อง ปูห้องน้ำ เลือกแบบไหนดี ? เลือกตามใจ เน้นความสวยงาม ความชอบ เพียงอย่างเดียวได้ไหม ! แอดมิน บอกเลยว่า กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ จะแตกต่างจากกระเบื้องที่ต้องปูในโซนอื่น ๆ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น อยู่มากเลยทีเดียว ต้องดูองค์ประกอบของการใช้งานเป็นหลัก การปูพื้นกระเบื้องห้องน้ำ นอกจากจะทำให้ห้องน้ำดูสวยงามบ่งบอกถึงสไตล์เจ้าบ้านแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเราเลือกมองที่ราคาเป็นหลักหรือความสวยงามอย่างเดียวก็จะเกิดปัญหาที่ตามมาตาม วันนี้แอดมินจะมาแนะนำ วิธีการเลือกกระเบื้องปูห้องน้ำให้ปลอดภัยและแบบไหนไม่ควรใช้

เกณฑ์การเลือก กระเบี้อง ปูห้องน้ำ

ในการเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับห้องน้ำ ควรคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้ 
  • การกันน้ำ: เลือกใช้กระเบื้องที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่เปียกโดยเฉพาะ เช่น กระเบื้องพอร์ซเลนหรือเซรามิก กระเบื้องประเภทนี้จะทนทานต่อน้ำและความชื้นได้ดีกว่า
  • กันลื่น : มองหากระเบื้องที่มีพื้นผิวหรือไม่ลื่นเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในบริเวณที่เปียกได้ง่าย เช่น พื้นห้องน้ำ ควรเลือกกระเบื้องที่มีอัตราการกันลื่นสูงกว่า
  • ความทนทาน : เลือกกระเบื้องที่ทนทานและทนทานต่อการสึกหรอของห้องน้ำในแต่ละวัน โดยทั่วไปกระเบื้องพอร์ซเลนและเซรามิกจะทนทานกว่าและทนทานต่อรอยขีดข่วนและคราบสกปรก
  • ขนาดและรูปแบบ : พิจารณาขนาดและรูปแบบห้องน้ำของคุณเมื่อเลือกขนาดกระเบื้อง กระเบื้องขนาดใหญ่จะทำให้ห้องน้ำขนาดเล็กดูกว้างขวางขึ้น ในขณะที่กระเบื้องโมเสกขนาดเล็กสามารถใช้สำหรับการออกแบบที่ซับซ้อนหรือเพื่อเพิ่มความโดดเด่น
  • สไตล์และความสวยงาม : เลือกกระเบื้องที่เสริมสไตล์ห้องน้ำและความสวยงามโดยรวมที่คุณต้องการ พิจารณาสี ลวดลาย และพื้นผิวของกระเบื้องเพื่อสร้างรูปลักษณ์และความรู้สึกที่ต้องการ โทนสีกลางสามารถสร้างรูปลักษณ์ที่ไร้กาลเวลาและหลากหลาย ในขณะที่สีหรือลวดลายที่เข้มขึ้นสามารถเพิ่มความโดดเด่นและความน่าสนใจให้กับภาพ
  • การบำรุงรักษา : คิดถึงระดับการบำรุงรักษาที่จำเป็นสำหรับกระเบื้อง กระเบื้องบางชนิดอาจต้องทำความสะอาดหรือปิดผนึกบ่อยขึ้นเพื่อให้อยู่ในสภาพดี พิจารณาไลฟ์สไตล์ของคุณและระยะเวลาที่คุณยินดีจ่ายให้กับการบำรุงรักษากระเบื้อง
  • งบประมาณ : กำหนดงบประมาณสำหรับการเลือกไทล์ของคุณและเลือกไทล์ที่เหมาะสมกับงบประมาณนั้น โปรดทราบว่าวัสดุและการออกแบบกระเบื้องที่แตกต่างกันอาจแตกต่างกันอย่างมากในด้านราคา

นอกจากนี้ คุณควรไปที่โชว์รูมกระเบื้องหรือปรึกษากับผู้จำหน่ายกระเบื้องมืออาชีพเพื่อดูและสัมผัสตัวเลือกกระเบื้องต่างๆ ด้วยตนเอง รวมทั้งรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกกระเบื้องที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะในห้องน้ำของคุณ

ค่า r กระเบื้อง คืออะไร จำเป็นกับห้องน้ำแค่ไหน

การเลือกกระเบื้องโดยเฉพาะกับการนำไปใช้ปูในห้องน้ำ สิ่งแรกที่ต้องคำนึง คือ ผิวสัมผัสของกระเบื้องจะต้องไม่เรียบเนียน ควรมีผิวสัมผัสที่หยาบและสากเท้าไม่มากก็น้อย ซึ่งความสากเราจะเรียกว่าค่า R หรือ SLIP RESISTANCE RATING เรียกสั้น ๆ ว่า ค่ากันความลื่น เป็นค่าที่ได้มาจากการทดสอบ RAMP TEST ที่พื้นในระดับความลาดชันต่างๆ ซึ่งกระเบื้องที่เหมาะสำหรับใช้ปูพื้นห้องน้ำต้องมีค่าตั้งแต่ R9 – R13 ขึ้นไป ยิ่งตัวเลขมากจะยิ่งกันความลื่นได้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มในห้องน้ำเพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน สามารถสังเกตค่า R ได้จากข้างกล่องกระเบื้อง หรือสอบถามพนักงาน หรือช่างผู้ติดตั้งได้

กระเบื้อง ห้องน้ํากันลื่น ที่แนะนำ

  1. กระเบื้องเซรามิก (Ceramic tiles) คือวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานและทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ พวกเซรามิกมักถูกใช้งานในการปูพื้นห้องน้ำ เพราะมีความทนทานต่อความชื้นและความสะอาด และมีรูปแบบและสีสันต่างๆ ให้เลือกสรรในการตกแต่งห้องน้ำ กระเบื้องเซรามิกมีรูปแบบและขนาดต่างๆ เช่น กระเบื้องเซรามิกลายหินธรรมชาติ กระเบื้องเซรามิกเรียบ กระเบื้องเซรามิกลายไม้ ฯลฯ คุณสมบัติที่ดีของกระเบื้องเซรามิกรวมถึงการทนต่อการลื่นไถลในสภาพเปียก ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้ในห้องน้ำ
  2. กระเบื้องดินเผา (Terracotta tiles) เป็นวัสดุสร้างปูพื้นที่ที่ทำจากดินเผา มีลักษณะเป็นกระเบื้องที่มีสีแดงหรือสีน้ำตาลเข้ม เนื่องจากดินที่ใช้ผลิตกระเบื้องมีส่วนผสมของดินเหล็กออกซิเดชั่น ทำให้มีสีแดงตามมา กระเบื้องดินเผามักถูกนำมาใช้ในการปูพื้นภายนอกหรือภายในบ้าน เช่น กระเบื้องห้องน้ำ กระเบื้องห้องครัว หรือพื้นสวน กระเบื้องดินเผามีความทนทานและความคงทนต่อการใช้งาน กระเบื้องดินเผาที่ถูกเผาไฟสูง จะมีคุณสมบัติ ไม่ลื่น ไม่เป็นตะไคร่น้ำแบบฝังลึก
  3. กระเบื้องโมเสก (Mosaic tiles) คือกระเบื้องที่มีขนาดเล็กและมักจะมีลวดลายหรือลวดลายเล็กๆ ที่เรียงต่อกันเพื่อสร้างรูปแบบหรือลวดลายที่หลากหลาย สร้างความสวยงามและการตกแต่งที่น่าสนใจ กระเบื้องโมเสกมักถูกนำมาใช้ในการปูผนังหรือพื้นในห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่ต้องการเน้นความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์
  4. กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granite tiles) คือกระเบื้องที่ผลิตจากหินธรรมชาติที่มีความแข็งแรงและทนทาน กระเบื้องแกรนิตโต้มีลักษณะพื้นผิวที่เป็นเนื้อหินด้านบน มักจะมีลายและลวดลายที่เกิดจากลายธรรมชาติ มีความหลากหลายในเรื่องขนาดและสี สีหินแกรนิตโต้มักจะอยู่ในเกณฑ์ของสีเข้ม เช่น เทา ดำ น้ำตาล หรือสีเลือดงูกระเบื้องแกรนิตโต้มักถูกนำมาใช้ในการปูพื้นห้องน้ำ ห้องครัว พื้นที่ภายนอก เนื่องจากมีความทนทานต่อการใช้งานและความทนทานต่อความเปียกชื้น นอกจากนี้ ลักษณะและความหลากหลายของกระเบื้องแกรนิตโต้ยังทำให้เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการตกแต่งเพื่อเพิ่มความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับพื้นที่ต่างๆ
  5. กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain tiles) มีลักษณะที่เป็นหินเทียมที่มีความแข็งแรงและความทนทานสูง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทนต่อความชื้น ความเปียกชื้น และความทนทานต่อสารเคมี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีการใช้งานและการติดต่อกับน้ำอยู่บ่อยครั้งกระเบื้องพอร์เลนมีความหลากหลายในสี ลวดลาย และลักษณะพื้นผิว เป็นวัสดุที่ทันสมัยและได้รับความนิยมสูงในการใช้ปูพื้นห้องน้ำ อาคารพาณิชย์ และโครงการสถาปัตยกรรมต่างๆ รวมถึงการตกแต่งภายในที่ต้องการความสวยงามและคุณภาพสูง.

กระเบื้องยาง ปูพื้นห้องน้ำ ได้ไหม

กระเบื้องยางแม้จะมีค่าความกันลื่นที่ดี แต่ไม่เหมาะกับการน้ำไปปูพื้นห้องน้ำ เนื่องด้วยวัสดุที่ใช้ในการผลิตจะเป็น ไวนิล หรือ พลาสติก เป็นหลัก เวลาที่ถูกน้ำแช่ น้ำขัง เป็นเวลานาน ยาง หรือ พลาสติก จะมีอาการขยายตัว หรือ บวม นั้นเอง จะทำให้กระเบื้องกระเดิดจากขยายตัว ทำให้อายุการใช้งานนั้นสั้น ถ้าเทียบกับกระเบื้องประเภทอื่น ๆ

5 ขั้นตอน ปรับพื้น ก่อนปูกระเบื้องยาง

5 ขั้นตอน ปรับพื้น ก่อนปูกระเบื้องยาง

ปรับพื้น ก่อนปูกระเบื้องยาง ต้องรู้อะไรบ้าง ? การปรับพื้นถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะทำการปูพื้น โดยเฉพาะหน้างานภายในอาคาร หรือ พื้นที่ต้องมีวัสดุปิดทับ เช่น ลามิเนต พื้นไม้ปาเก้ พื้นพื้นพรม รวมไปถึง กระเบื้องยาง เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เหมาะสมกับการปูทับ หากพื้นมีรอยแตกหรือชำรุด คุณควรซ่อมแซมพื้นก่อนปูกระเบื้องยาง ใช้วัสดุซ่อมแซมที่เหมาะสมเพื่อซ่อมแซมข้อบกพร่อง เช่น การซ่อมแซมรอยแตกด้วยปูนซีเมนต์ หรือ ปูนปรับระดับ เพื่อป้องกันปัญหาเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตนั่นเอง วันนี้จึงมาให้ความรู้เทคนิคก่อนที่จะทำการปรับพื้นกันว่ามีอะไรบ้าง

คุณสมบัติของการปรับพื้นที่ดีคืออะไร ?

การปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องยางเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานในการใช้งาน ดังนั้นนี่คือคุณสมบัติของการปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องยางที่แนะนำ

1. ความเรียบเนียน : เนื่องจากกระเบื้องยางส่วนใหญ่มีขนาดและวัสดุหลากหลาย ใช้การทากาวในการติดตั้ง หรือ คลิ๊กล็อคแบบไม่ต้องใช้กาว ในการปรับพื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตำแหน่งไหนที่ไม่เรียบเนียน ก็จะทำให้กระเบื้องยางเกิดความเสียหายได้ อาจไปถึงการรื้อเพื่อซ่อมแซม ซึ่งเสียเวลาในการรื้อถอน หรือ บางรุ่นกระเบื้องยางจะเสียหายไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

2. พื้นมีระดับเดียวกัน : นอกจากความเรียบเนียนของพื้นแล้ว ระดับของพื้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงพื้นจะเรียบเนียน แต่มีความเอียงก็จะทำให้พื้นเป็นแอ่ง หรือ หากพื้นไม่ได้ระดับ พื้นเป็นหลุมเป็นบ่อ เวลาปูกระเบื้องยางจะเกิดเป็นคลื่นทำให้ไม่สวยงาม ยิ่งกับ พื้นคลิ๊กล็อค spc วัสดุที่มีความแข็งกว่ากระเบื้องยางทั่วไป หากพื้นเป็นคลื่นเป็นแอ่งจะไม่สามารถปูได้เลยทีเดียว

3. ความสะอาดของพื้น ไม่มีฝุ่นผง หรือ สิ่งสกปรก : ก่อนปูกระเบื้องลงไป ไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องสำรวจให้ดีว่ามีสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรก อย่างเช่น ฝุ่นผง น็อตตะปูจากการทำงานให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นขรุขระ ทำให้มีการรื้อพื้นซ่อมแซมเสียเวลาระหว่างวันเพิ่ม

5 วิธี ปรับพื้น ก่อนปูกระเบื้องยาง

1.สำรวจพื้นที่ : ก่อนเริ่มปรับพื้น ควรสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร เดิมทีกระเบื้องยางเป็นกระเบื้องที่สามารถปูพื้นเดิมได้อยู่แล้ว จึงควรสำรวจพื้นผิวเดิมดูก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร มีร่องจุดไหน แตกร้าวจุดไหน จะได้ซ่อมแซมให้เรียบร้อย พื้นเดิมต้องขัดมันไหม หรือ ปรับปูนกาวสไลด์บาง ๆ หรือ พื้นเดิมแย่มากต้องถึงขั้น self-leveling เลยหรือไม่

2.รื้อพื้นเดิมที่หลุดร่อนออกให้เรียบร้อย :หากกระเบื้องเดิมมีความเสียหายหลุดร่อน ห้ามติดตั้งกระเบื้องยางลงไปเด็ดขาด เพราะพื้นที่ขรุขระไม่เรียบเนียน เสี่ยงต่อความเสียหายในอนาคตอีก หากพบความเสียหายควรรื้อกระเบื้องเดิมออกก่อน ปรับพื้นใหม่เพื่อให้ได้พื้นที่เรียบก่อนติดตั้งกระเบื้องยางนั่นเอง

3.กรณีพื้นคอนกรีต ให้สำรวจรอยแตกร้าว : พื้นคอนกรีตก็ต้องสำรวจ เพราะพื้นคอนกรีตมีโอกาสรอยเกิดแตกร้าวจะส่งผลเสียต่อการปูกระเบื้องยาง ในการซ่อมแซมพื้นคอนกรีต แนะนำให้ใช้ ปูนสำหรับปรับระดับ self-leveling เพราะเหมาะสำหรับงานซ่อมแซมรอยแตกร้าวได้ดี และหากเป็นชนิดไหลตัวเองได้ การใช้งานก็จะง่ายกกว่าใช้ปูนทั่วไป การปรับพื้นเพื่อเสริมความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการปูกระเบื้องยางทุกประเภท

4.คุณภาพของปูนปรับระดับเป็นสิ่งสำคัญ : ความละเอียดของงานอาจไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาภายหลังได้ ถ้าเลือกใช้ปูนที่ไม่มีคุณภาพ ควรเลือกใช้ปูนให้เหมาะสม ส่วนใหญ่เราจะเห็นการใช้ปูนเหลวเป็นหลักในการซ่อมแซม เพราะสะดวก รวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติของปูน สำหรับงานที่ต้องผิวหน้าปูนที่เรียบ และ ดูดซึมน้ำ ก็คงจะเป็นตัวไหนไปไม่ได้ ARDEX-X 310 ที่มีคุณสมบัติรับกำลังอัดสูงถึง 28 N/mm2 แห้งตัวได้เร็วสามารถเดินได้ภายใน 3 ชม. ขัดพื้นผิวง่าย มีความคงรูป คงตัวดี เหมาะกับงานปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องทุกชนิด

5.ติดตั้งกระเบื้องยาง : หลังจากทำการปรับพื้นรวมไปถึงเวลาในการแห้งตัวสำเร็จเสร็จสิ้น ให้ทำการปูกระเบื้องยางได้เลย เพื่อให้แผ่นกระเบื้องยางที่ปู ออกมาเป็นระเบียบสวยงาม

ทำไม ปูพื้น SPC ต้องรองโฟม หากไม่รองโฟม แตกต่างกันอย่างไร

ปูพื้น SPC ต้องรองโฟมไหม คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามที่คนสนใจในกระเบื้องยางคลิ๊กล็อคหลายคนสงสัยกันเป็นอย่างมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการนำโฟมไปรองที่พื้น เวลาเดินจะยวบยาบและมีเสียงเวลาเดินเหมือนในงานพื้นไม้ลามิเนต ก่อนที่จะเฉลยถึงความแตกต่างของพื้นแบบรองโฟมและแบบไม่รองโฟม มาทำความรู้จักกับกระเบื้องยางคลิ๊กล็อค SPC ก่อน จะได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องรองโฟมหรือไม่ต้องรองโฟมกันครับ

กระเบื้องยางแบบ คลิ๊กล็อค SPC  เป็นวัสดุที่ผลิตจากหินผสมกับพลาสติก ไม่มีส่วนผสมของไม้แต่อย่างใด  แตกต่างจากกระเบื้องยางทั่วไปที่ผลิตจากพลาสติกไม่มีส่วนผสมของหินเลย ดังนั้น เนื้อสัมผัมของกระเบื้องยาง SPC จึงจะมีความแข็งแกร่ง ทนทาน แต่ยืดหยุ่นได้น้อยกว่ากระเบื้องยางประเภทอื่น  ความสามารถในการกันชื้นจากโมเลกุของหินก็มีมากกว่ากระเบื้องยางแบบอื่น ๆ เช่นกัน

 

ปูพื้น spc รองโฟม หรือ ไม่รองโฟม แตกต่างกันอย่างไร

จะเห็นว่าพื้น SPC มีความแข็งแกร่งแต่หยืดหยุ่นอ่อนตัวได้น้อยกว่ากระเบื้องยางทากาว และ กระเบื้องยางคลิ๊กล็อค LVT ดังนั้น การรองโฟม และ การไม่รองโฟม นับว่าส่งผลต่อกระเบื้องยางคลิ๊กล็อค SPC เลยทีเดียว แต่จะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด มาดูพร้อมกันได้เลย

ความแตกต่าง แบบ รองโฟม แบบ ไม่รองโฟม
เสียง โฟมเป็นดั่งชั้นฉนวนช่วยซัพเสียงจากกระเบื้องยางกับพื้นโดยตรง ด้วยส่วนผสมการผลิตที่มีหินเป็นส่วนประกอบ ทำให้ SPC มีความแข็งและไม่อ่อนตัว หากไม่รองโฟม  เวลาพื้น SPC กระทบพื้นปูนจะมีเสียงดังกรอบแกร๊บ
ความทนทาน ชั้นโฟมช่วยซัพแรงกระแทกได้ดี เช่นเดียวกับการซัพเสียง ทุกแรงกดทับ กระเบื้องจะกระแทกกับพื้น หากพื้นปูนไม่เรียบ หรือ ต่างระดับ ส่งผลให้อาจเกิดการแตกหัก ความทนทานและอายุการใช้งานของกระเบื้อง SPC
ยืดหยุ่น ยืดหยุ่นด้วยโฟมที่ทำหน้าที่ซัพแรงกดทับ ความยืดหยุ่นน้อยเพราะส่วนประกอบหลักเป็นหิน
การติดตั้ง การปูโฟมรองนั้นจะช่วยให้การติดตั้งพื้นง่ายและเร็วขึ้น เพราะโฟมเสมือนทำหน้าที่ปรับพื้นผิวให้สม่ำเสมอกัน ใช้ระยะเวลาที่นานกว่าปกติ กับขั้นตอนการเคลียร์เศษฝุ่น เศษหิน จากพื้นปูนเดิม พื้นเดิมต้องผ่านการขัดหน้าพื้นให้เรียบเนียน ไม่เป็นหลุ่มเป็นแอ่ง ได้ระดับ
สัมผัสการเดิน หากโฟมรองและกระเบื้องที่ปูเซตตัว จะทำให้สัมผัสการเดินแน่น ไม่ยวบยาบเหมือนงานพื้นไม้ลามิเนต สัมผัสการเดินแข็งกระด้าง ไม่ต่างจากเดินพื้นปูน
ราคา อาจต้องซื้อโฟมแยก บางรุ่นมีโฟมรองติดกับกระเบื้องยาง ไม่เสียค่าใช้จ่ายเรื่องโฟมรอง แต่การเตรียมพื้นผิวต้องดีเป็นพิเศษ

 

โฟมรองพื้นกระเบื้องยาง ในตัว กับ แบบซื้อโฟมมารองแยก แตกต่างกันอย่างไร

นอกจากเลือกแบบรองโฟม หรือ ไม่รองโฟมแล้วนั้น กระเบื้องยาง SPC ยังมีให้คุณเลือกว่าจะใช้โฟมที่ติดมากับกระเบื้องยาง หรือ ซื้อโฟมมารองแยกต่างหากหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 แบบวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นก็แตกต่างกันไป คุณสมบัติบางประการก็แตกต่างกันไปเช่นกัน

คุณสมบัติ แบบ โฟมในตัว (ixpe) แบบ ซื้อโฟมมารองแยกต่างหาก
วัสดุ สานเนื้อโฟมแบบตาข่าย ความหนาแน่นจะสูง โฟม PE รองพื้น ผลิตจากเม็ดพลาสติก ไม่ถักความหนาแน่นจะน้อยกว่า
ความทนทาน กันน้ำ กันเชื้อรา 100 % ไม่สามารถกันน้ำได้ จึงอาจทำให้เกิดเชื้อรา หากโดนน้ำเป็นเวลานาน
ยืดหยุ่น IXPE ใช้นวัตกรรมรังสีความร้อน เชื่อมโมเลกุลทำให้แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดแรง กระแทกได้ดีโดยไม่ยุบตัว ยืดอายุการใช้งานได้ในระยะยาว ขึ้นอยู่กับความหนาในการเลือกซื้อ หากมีเลือกซื้อหนาเกินไป ยืดหยุ่นสูงแต่สัมผัสการเดินยวบยาบ
การติดตั้ง สะดวกกับการติดตั้งมากกว่า ใช้ระยะเวลาที่นานกว่าโฟมในตัว และห้ามโฟมซ้อนทับกันเด็ดขาด เพื่อป้องกันพื้นที่สูงต่ำไม่เท่ากันจากชั้นโฟมที่ซ้อนทับ
การกันไฟฟ้า ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ต้านทานการกัดกร่อน หน่วงการติดไฟ กันความร้อนสูง กันลื่น ได้ดีกว่าโฟมแยก มีคุณสมบัติการกันไฟฟ้าสถิตย์แต่ไม่เท่าโฟม ixpe
ราคา ราคารวมอยู่ในตัวกระเบื้อง ขึ้นอยู่กับความหนาและจำนวน ตารางเมตรที่เลือกใช้

 

4 กระเบื้องปูพื้น ที่นิยมในปัจจุบัน ?

กระเบื้องปูพื้น ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องโมเสค แกรนิตโต้ กระเบื้องยาง พื้นไม้ปาเก้ พื้นลามิเนต หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่นิยมใช้กับงานปูพื้นบ้านและอาคารทั้งนั้น และมีลวดลาย texture ข้อดี ข้อเสีย และราคาที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความสวยงาม มีความทันสมัย ในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับดีไซน์การใช้งานการตกแต่งของเจ้าของบ้านเจ้าของอาคาร  วันนี้ แอดมิน จะพาเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มาดูว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนที่กำลังหาวัสดุปูพื้นใหม่

 

 

กระเบื้องปูพื้น แต่ละแบบที่กำลังเป็นที่นิยม

1. กระเบื้องยาง หรือ กระเบื้องไวนิล 

เป็นกระเบื้องที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับใช้การตกแต่งภายใน ปูพื้น ปูผนังได้ เป็นกระเบื้องที่ผลิตมาจากโพลิเมอร์หรือยาง กระเบื้องยาง  มีราคาถูก เป็นกระเบื้องที่ทนความชื้นได้ดี  ไม่แตกหัก เพราะพื้นทำมาจากยาง มีความนุ่ม  ดูแลรักษาง่าย กันน้ำ  มีความสวยงาม มีความเรียบแต่หรูหรา มาพร้อมกับอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10 – 15 ปี

ข้อดีของกระเบื้องยาง

  • มีความทนทาน กันน้ำ และป้องกันปลวก
  • ทนความชื้น ทนน้ำ ป้องกันการลื่น
  • รองรับน้ำหนักได้ดี
  • ติดตั้งง่าย สามารถปูทับพื้นเดิม
  • ซ่อมแซมเองได้

ข้อเสียกระเบื้องยาง 

  • ในการติดตั้งจะต้องติดตั้งกับพื้นที่เรียบ และมีความสะอาดเท่านั้น
  • ไม่ได้ให้ความสัมผัสถึงไม้จริง
  • ถ้าติดตั้งทับพื้นกระเบื้องเซรามิก ต้องยาแนวให้เรียบซะก่อน

2. กระเบื้องเซรามิค

เป็นกระเบื้อง ที่เราพบเห็นได้ตามตัวอาคารทั่ว ๆ ไป พื้นกระเบื้องมีความแน่นและแข็งแกร่งค่อนข้างสูง มีคุณสมบัติใกล้เคียงหิน แต่แตกหักได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่มักจะทำออกมาเป็นแผ่นบาง กระเบื้องเซรามิกมีลวดลายบนตัวกระเบื้องเนื่องจากมีการพิมพ์ลายลงบนเนื้อ กระเบื้องเซรามิกมีการแยกประเภทสำหรับใช้ปูพื้นหรือใช้ปูผนัง เวลาไปเลือกซื้อจึงต้องระบุชนิดของกระเบื้องให้ดี ส่วนราคาของกระเบื้องเซรามิกถือว่าราคาไม่สูง มีตั้งแต่ราคา 10 กว่าบาทขึ้นไปจนถึงราคาหลักร้อย

ข้อดีของกระเบื้องเซรามิก

  • สีสัน ลวดลายมีให้เลือกหลายขนาด
  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ
  • หาซื้อได้ง่าย

ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิก

  • เวลาเปียกน้ำมักมีความลื่น
  • รื้อแล้วนำมาปูใหม่ไม่ได้
  • แตกหักง่าย

3.พื้นไม้ปาร์เก้

ปาร์เก้เป็นไม้ชิ้นเล็ก ๆ ที่นำมาต่อกันคล้ายกับ โมเสค การปูพื้นด้วยปาร์เก้เป็นการตกแต่งบ้านให้ดูมีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ พื้นไม้ปาร์เก้ยังมีจุดเด่น คือ ไม่เก็บฝุ่น ทำให้ไม่เกิดการสะสมแหล่งของโรคภูมิแพ้ และพื้นปาร์เก้ยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ปาร์เก้สามารถทำขึ้นได้จากไม้หลายชนิด เช่น ปาร์เก้ไม้แดง ปาร์เก้ไม้สัก ปาร์เก้ไม้เทียม เป็นต้น

ข้อดีของพื้นไม้ปาร์เก้

  • ลวดลายสวยงาม
  • ไม่กักเก็บฝุ่น
  • ติดตั้งง่าย

ข้อเสียของพื้นไม้ปาร์เก้

  • ไม่ทนความชื้น
  • ปลวกสามารถกัดกินไม้ได้ง่าย
  • เป็นรอยง่าย

4. พื้นไม้ลามิเนต

พื้นลามิเนต เป็นพื้นที่ไม่ไม้จริง ๆ แต่เป็นเอาไม้แท้ ๆ มาผ่านกระบวนการต่าง ๆ ที่ให้ได้พื้นไม้ลามิเนตออกมา โดยใช้ผงไม้มาอัดจนเป็นแผ่น ซึ่งเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พื้นลามิเนต1 แผ่นจะประกอบไปด้วยชั้นต่าง ๆ ถึง 4 ชั้น ซึ่งชั้นที่หนาที่สุดจะเป็นชั้นตรงกลาง เพราะชั้นนี้จะนำเนื้อไม้มาย่อยให้เป็นผง และนำไปผสมกับสารเคมีอื่น ๆ จึงทำให้ออกมาเป็นแผ่น

ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต

  • ติดตั้งได้เร็ว น้ำหนักเบา และทนทาน
  • ให้ความรู้สึกถึงไม้จริง ๆ เวลาที่เราสัมผัส
  • สวย ลายไม้มีความเหมือนจริง
  • ปูทับพื้นเดิมได้

ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต

  • ต้องระวังเรื่องความชื้น เพราะไม้มิเนตไม่ทนความชื้น
  • ซ่อมแซมเองไม่ได้ ต้องเป็ช่างเท่านั้น
  • ระวัง ปลวก มอด เพราะมันชอบพื้นแบบนี้

วิธีทำความสะอาดกระเบื้องยาง และปัญหากระเบื้องยางหลังปู

วิธีทำความสะอาดกระเบื้องยาง หลังปูทำอย่างไร หลาย ๆ คนคงจะเคยเจอกับ effect ปัญหาคราบกาวติดแผ่นกระเบื้องยางหลังปูก็เป็นไปได้  ซึ่ง effect นี้เกิดขึ่นได้เกือบทุกพื้นที่ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาจจะเกิดจาก เราปูเอง หรือช่างที่เราจ้างมาไม่ชำนาญเท่าไหร่ รวมไปถึงการใส่กาวที่เยอะเกินไป ทำให้เวลาที่กดหรือออกแรงกระเบื้องยางให้ยึดติดพื้น  เนื้อกาวดันออกมาทำให้เลอะเปรอะเปื้อนเต็มพื้น หรือแม้แต่อุณภูมิที่อาจจะส่งผลให้เนื้อกาวดันขึ้นตามร่องกระเบื้องไวนิลได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาปกติสำหรับการติดตั้งแบบทากาวหรือกาวในตัวนั่นเอง ซึ่งเราสามารถแก้ไขหรือทำความสะอาดคราบกาวเหล่านั้นเองได้ เพียงจะต้องรู้วิธีแก้ไขให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

 

 

 

วิธีทำความสะอาดกระเบื้องยาง หลังปู

การทำความสะอาดพื้นกระเบื้องยางหลังปู เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการทำความสะอาดนั้นจริง ๆ แล้วไม่ยาก และเป็นเรื่องปกติสำหรับการติดตั้งแบบใช้กาวอยู่แล้วนั้นเอง ซึ่งเราสามารถเช็ดล้างทำความสะอาด เพื่อให้พื้นกระเบื้องยางของเราเป็นพื้นที่มีความทันสมัย สวย ได้ดังนี้

  • หลังจากการปูพื้นกระเบื้องยางเสร็จ จะมีคราบกาวที่ดันขึ้นจากพื้นหลงเหลืออยู่ที่บนชั้นผิวของกระเบื้อง โดยเราจะต้องทิ้งไว้ซักพักรอให้กาวด้านล้างแห้งและยึดติดกับกระเบื้องที่เราปูไปเสียก่อน ก่อนที่จะทำความสะอาด
  • ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่น หรือน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆที่เหมาะสม ผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม แล้วใช้แปรงขนขนาดเล็กหรือไม้ถูเช็ดทำความสะอาดคราบกาวที่ติดกระเบื้องยาง
  • กรณีที่คราบกาวเช็ดออกไม่หมด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำมันสนบิดมาด ๆ และขัดเช็ดถูบริเวณที่มีคราบกาว ไม่แนะนำให้ใช้ทินเนอร์เพราะเป็นสารเคมีที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้หน้ากระเบื้องยางเสียหายได้
  • หลังเช็ดคราบกาวเสร็จสิ้นควรใช้แวกซ์ชนิดน้ำ ลงที่หน้ากระเบื้อง จะช่วยรักษาพื้นให้คงทน ดูสวยเป็นเงางาม และ ทำให้รักษาความสะอาดได้ง่าย
  • หลังเสร็จสินควรทิ้งพื้นไว้ 1 – 2 วันก่อนใช้งานพื้น

ปัญหากระเบื้องยาง ที่มักพบเจอหลังปู

  1. ถ้าเราใช้กระเบื้องยางไปนาน ๆ อาจจะเจอปัญหา กาวดันกระเบื้องขึ้นมาทำให้กระเบื้องโก่ง แก้ไขได้โดยเอาฟอล์ยมาปูทับกระเบื้องแผ่นที่โก่ง หลังจากนั้นใช้เตารีด รีดแผ่นกระเบื้องที่โก่ง วิธีนี้จะทำให้ลดปัญหาได้ เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากการขยายตัวของกระเบื้องยางนั่นเอง
  2. ปัญหารอยดำของกระเบื้องยาง จะพบเจอบ่อย ซึ่งปัญหานี้เกิดจาก เวลาที่เราปูกระเบื้องเอง จะเกิดปัญหาบ่อย เพราะเราอาจจะใช้กาวไม่มีมาตรฐาน ซึ่งถ้าปูกระเบื้องไปแล้วขึ้นรอยดำ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาเมจิคคลีน ถูบ่อย ๆ บริเวณคราบดำ วิธีก็จะทำให้คราบหายได้เหมือนกัน หรือเรานำกระเบื้องยางไปปูพื้นห้องน้ำ แล้วเกิดคราบดำจากน้ำสบู่ ยาสระผม ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน
  3. หากเกิดกรณี กระเบื้องยางหด และขยายตัวอย่างเฉียบพลัน ซึ่งจะเกิดจาก อุณภูมิ ถ้าเป็นภาษาทางวัสดุที่เค้าใช้จะเรียกกัน คือ thermal shock มันเกิดปัญหาจากตอนที่เราปูจะไม่สนิท กระเบื้องมันเลยจะไม่ติดกัน ปัญหานี้มักเกิดจากการขนส่งกระเบื้องยาง ที่เป็นเป็นเวลานาน ๆ โดยผ่านอุณภูมิหลากหลาย เช่น ร้อน และเย็น วิธีแก้ทำได้ด้วยการ พักกระเบื้องยางก่อนปู ในอุณหภมิปกติอย่างต่ำ 1 วัน เพื่อให้กระเบื้องคืนรูปเดิม ซึ่งปัญหานี้เกิดกับพวกกระเบื้องยาง ที่มีส่วนผสมของยางรีไซเคิลเกรดเยอะ ๆ มากกว่า 30% ขึ้นไปพวกนี้ ราคาถูกจริงแต่ปัญหาก็เยอะตามด้วย
  4. ข้อห้ามในการทำความสะอาดกระเบื้องยาง คือห้ามใช้แปรงขัดเด็ดขาด เพราะจะทำให้กระเบื้องยางนั้นมีรอย เราใช้แค่ผ้าชุบน้ำ หรือน้ำยา ในการเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น

ปัญหา กระเบื้องยางหดตัว สาเหตุเกิดจากอะไร วิธีแก้ไขและป้องกันอย่างไร

กระเบื้องยางหดตัว แก้ไขอย่างไรได้ ? อย่างที่เราทราบกันดีกว่า กระเบื้องยาง นับเป็นหนึ่งในวัสดุ ยอดนิยม เนื่องจาก หาได้ง่าย มีหลากหลายลาย หลากหลายรูปแบบ ด้วยคุณสมบัติ ทนน้ำ ทนไฟ กันปลวก ดูแลรักษาง่าย ราคาไม่แพง จึงทำให้กระเบื้องยาง เข้ามาแทน วัสดุปูพื้นจำพวกลามิเนตได้อย่างง่ายดาย แต่ปัญหา ที่สำคัญมากของกระเบื้องยางคือ การหดของกระเบื้องยางซึ่งถือได้ว่า เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่คนใช้กระเบื้องยางต้องเคยเจอ  แล้ววันนี้นะครับ ผมจะมาบอกวิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อกระเบื้องยางเกิดการหดตัวและวิธีการป้องกันการหดตัวของกระเบื้องยางครับ

สาเหตุของ กระเบื้องยางหดตัว

สาเหตุของปัญหากระเบื้องยางเกิดการหดตัว เนื่องจากกระเบื้องยางถูกออกแบบมาเพื่อให้นุ่มสบายเท้า ไม่แข็งกระด้าง ตอบโจทย์กับการใช้งานของการเดินมากกว่าวัสดุอื่น ๆ วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตกระเบื้องยางส่วนใหญ่จึงเป็นพลาสติก pvc  จึงมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ความชื้นของห้องจากการฤดูฝน หรือ การเปิดแอร์ การดูแลทำความสะอาดจากการใช้น้ำเช็ดถู ยิ่งผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน เนื้อยางจะค่อย ๆ มีการเปลี่ยนสภาพจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า กระเบื้องยางหดตัว นั้นเอง

วิธีแก้ไขเมื่อ กระเบื้องยางหดตัว

  1. รื้อแล้วปูใหม่ โดยใช้กระเบื้องเดิม เพราะกระเบื้องมีการปรับอุณภูมิแล้วจะไม่เกิดปัญหาการหดตัวซ้ำอีก
  2. ใช้ แด๊ปสี ในการเก็บตะเข็บที่หด โดยเลือกสีที่ใกล้เคียงกับกระเบื้องมากที่สุด ก็จะแก้ไขปัญหานี้ได้
  3. หลังจากการปูกระเบื้องแล้วให้ใช้ WAX ทาเคลือบกระเบื้อง ก็จะช่วยในเรื่องการหดตัวได้เป็นอย่างดี

แต่จากวิธีดังกล่าว มาเป็นเพียงหนทางที่จะช่วย รักษาอายุการใช้งานของกระเบื้องไม่สามารถการันตีได้ 100% ว่า กระเบื้องจะไม่หดตัว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับผู้บริโภค จะเลือกใช้วัสดุ ให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง นอกจากวิธีแก้ไขแล้วเราควรรู้จักวิธีป้องกันด้วย

วิธีป้องกัน ปัญหากระเบื้องยาง ไม่ให้หดตัวตั้งแต่เริ่มต้น

  1. ก่อนการปูกระเบื้องยาง ต้องแน่ใจว่า พื้นแห้งเรียบสนิท ไม่มีความชื้น เพราะความชื้น จะทำให้พื้นเย็น เป็นอีกนึงสาเหตุทำให้กระเบื้องยางหดตัวได้
  2. เวลาซื้อกระเบื้องยางไปก่อนการปูควรทิ้งให้กระเบื้องยาง ปรับตัวกับสภาพอากาศหน้างานก่อน 1-2 วันเพื่อให้เกิดการ เซทตัว ไม่เกิดการหดหลังปู
  3. หากพื้นที่ที่จะใช้ กระเบื้องยาง มีแดดส่องถึงตลอดเวลา ควร นำกระเบื้องยาง ไปวางไว้บริเวณที่แดดส่องถึงก่อนเป็นเวลา 2 วันเพื่อให้กระเบื้อง หดและขยายตัวให้เต็มที่ก่อนปู
  4. เวลาปูกระเบื้องทุกแผ่นๆ ควรใช้ค้อนยาง ตอกให้แน่น เพื่อให้ตะเข็บ เรียบสนิท และเป็นการตีเพื่อ ให้เนื้อกระเบื้องขยายตัวให้เต็มที่ป้องกันการหดภายหลัง

เลือก กระเบื้องยาง SPC วัสดุปูพื้นที่ไม่หดตัว

ปัจจุบัน จึงมีการพัฒนา กระเบื้องยางให้หดตัวน้อยลง เรียกว่า กระเบื้องยาง SPC โดยการผสมผงหินเข้าไปในเนื้อกระเบื้อง ทำให้ อัตราการหดตัวต่ำลง เพราะเนื่องจากผงหิน จะเข้าไปขว้าง ระหว่างเส้นใย เมื่อมีการหดตัวก็จะเจอผงหินก่อน จึงทำให้การหดตัวน้อยกว่า การใช้กระเบื้องยาง PVC ล้วน อีกทั้งเพิ่มความแข็งแรง ทำให้คงรูปได้มากกว่าด้วย กระเบื้องยาง SPC จะไม่หดตัวแต่จะขยายตัวแทน ดังนั้นการปูพื้น SPC จะไม่สามารถปูชิดขอบผนังได้ ต้องเว้นห่างจากตัวผนัง 1-2 ซม เพื่อเผื่อให้พื้น SPC ขยายตัว และเก็บงานด้วยบัวติดผนังเก็บรอยห่างที่ไม่ได้ปูชิดแทน

 

อย่างที่ได้กล่าวไปทั้งหมดเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาการหดตัวของกระเบื้องยาง ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนใหญ่อยู่ที่คุณภาพของวัสดุที่ท่านได้ซื้อมาติดตั้งกับการใช้งานในแต่ละวัน เช่นมีการขนย้ายหรือใช้รถเข็นอยู่เป็นบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เกิดการเสียหายต่อกระเบื้องยางได้อย่างรุนแรงครับ และทั้งหมดนี้ท่านสามารถเอาไปเป็นแนวทางการดูแลรักษาหรือซ่อมแซมพื้นกระเบื้องยางของท่านได้อย่างง่ายดาย หากท่านใดดูแล้วเกิดประโยชน์ก็อย่าลืมกดกดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ

พื้น SPC คือ ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง แตกต่างจากกระเบื้องยาง LVT อย่างไร

พื้น SPC คือ อะไร SPC ย่อมาจาก (Stone Plastic Composite Flooring ) หรือที่หลายคนมักเรียกว่า กระเบื้องยาง คลิ๊กล็อค  SPC เป็นอีกประเภทหนึ่งของกระเบื้องยาง ซึ่งเรียกตามส่วนผสมการผลิต เกิดจากการผสมกันระหว่าง พลาสติกพีวีซี กับ แคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษไม่ติดไฟ ลดการหดตัวได้มากกว่ากระเบื้องยางประเภทอื่น ๆ มีลวดลาย 2 แบบให้เลือก ลายหิน และ ลายไม้ ถึงแม้จะเป็นลายไม้ แต่ก็ไม่ใช่ไม้จริง ๆ ดังนั้นหมดปัญหาต่างๆ ในเรื่องของปลวก และความชื้นไปได้เลย

  • พลาสติก PVC มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของความเหนียว และยืดหยุดเป็นพิเศษ
  • แคลเซียมคาร์บอเนต มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน

สำหรับในส่วนของตัวผิวด้านบนที่เป็นลวดลายต่าง ๆ มีการเคลือบด้วย Wear Layer หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ชั้นเคลือบผิว มีความหนาตั้งแต่ 0.30 มิลลิเมตร  เป็นการเพิ่มความคงทนต่อการเกิดรอยขีดขวนต่างๆได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมโฟมกับวัสดุที่ช่วยให้เดินบนพื้นมีความนุ่มเบาสบาย ไร้เสียง

พื้น spc ข้อเสีย ก็มีเช่นกัน แม้จะเป็นวัสดุที่มีส่วนผสมของหินแต่ก็ยังมีพลาสติกรวมอยู่ด้วย ดังนั้นการนำไปใช้บริเวณที่ต้องโดนน้ำตลอดเวลา เช่น ปูในห้องน้ำ หรือ ระเบียงที่ไร้กันสาด ดูไม่เหมาะนัก อาจทำให้เกิดการบวมน้ำอายุการใช้งานของ แผ่น spc น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เหมาะกับการใช้งานภายในบ้านบริเวณที่ไม่โดนน้ำท่วมขังตลอดเวลาเสียมากกว่า

 

ความแตกต่างของ กระเบื้องยาง LVT และ พื้น SPC คือ

กระเบื้องยางแบบคลิ๊คล็อคมีด้วยกัน 2 แบบ นั้นก็คือแบบ SPC และแบบ LVT ซึ่งทั้ง 2 แบบก็ใช้วัสดุในการผลิตที่แตกต่างกันไป ทำให้กระเบื้องยาง SPC และกระเบื้องยาง LVT มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การนำไปใช้งานให้ตอบโจทย์กับงานแต่ละงานก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งทั้ง 2 จะแตกต่างกันอย่างไรและเหมาะสมกับงานแบบไหนลองมาหาคำตอบพร้อมกันได้เลย

รายละเอียด แบบ SPC แบบ LVT
วัสดุในการผลิต ผงหินผสมพลาสติกโพลิเมอร์ เพียวพลาสติกแท้ 100 %
ทนน้ำ มีส่วนผสมของหิน ทำให้ทนน้ำได้ดีกว่ากระเบื้องยางทุกประเภท โดนน้ำได้แต่ไม่ถึงขั้นฝนสาดหรือโดนน้ำตลอดเวลา
ยืดหยุ่น ยืดหยุ่นได้น้อย มักขยายตัว เนื่องจากผสมผงหิน ยืดหยุ่นสูง โค้งงอ เข้าได้กับทุกพื้นที่ รับแรงกระแทกได้สูง
ป้องกันรอยขีดข่วน ขึ้นอยู่กับชั้นป้องกันการสึกหรอ และความหนักของการใช้งาน แบบเดียวกับ SPC
ความทนทาน แข็งแรงแต่หากรับน้ำหนักมากเกินไป อาจจะเกิดปัญหาคลิ๊กล็อกแตกหรือหักได้ ยวบตัวเข้ากับทุกพื้นที่ แม้เจอน้ำหนักมากน้อยก็ไร้ปัญหา ยกเว้นน้ำหนักมากจนเกินไป
ราคา ราคาถูกกว่าแบบ LVT ราคาสูงกว่า 50 – 100บ./ตร.ม. เนื่องจากใช้พลาสติก 100%
การติดตั้ง เว้นที่ว่างเพื่อป้องกันการขยายตัวของกระเบื้อง ต้องเก็บงานด้วยบัวเชิงผนังเสมอ ปูชิดกับผนังได้เลยเพราะกระเบื้อง LVT ไม่ขยายตัว

การใช้งานและวิธีการ ปูพื้นกระเบื้อง SPC

สำหรับกระเบื้องยาง SPC / LVT ไม่จำเป็นต้องใช้กาวในการติดตั้ง แต่เป็นตัวคลิ๊กล๊อค (click lock) ต่อกันได้เลย ต้องการมีการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการ ใช้งานให้เรียบร้อย ซึ่งอุปกรณ์ได้แก่ ปูนสำหรับปรับพื้น, เกรียงฉาบปูนซีเมนต์, ตลับเมตร, ไม้วัดระดับน้ำ, เต้าตีเส้น, ถังผสมปูน, คัตเตอร์ หรือ เครื่องตัดกระเบื้อง, ฟองน้ำหรือผ้า

  1. หลังจากเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ต่อไป เราต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับพื้น โดยเริ่มจากการสำรวจพื้นว่าเป็นพื้นแบบไหน หลังจากนั้นเริ่มเคลียร์พื้นที่หน้างานให้เรียบร้อย แล้วก็วัดพื้นหน้าขนาดงาน สุดท้ายเช็คและตรวจสอบความเรียบร้อยของพื้นอีกรอบ
  2. ขั้นตอนการปู เริ่มจากเอากระเบื้องออกจากกล่องทิ้งไว้ในอุณภูมิห้องประมาณ 20-24 ชม ตรวจสอบความชื้นของพื้นไม่ให้เกิน 5 เปอร์เซ็น หลังจากนั้นเริ่มปูจากทางเข้าก่อนถึงจะดี แต่ที่สำคัญคือต้องปูไปตามแนวขนานของห้อง ปูห่างจากผนังห้องประมาณ 5 เซนติเมตร หลังจากนั้น ก็ใช้บัวเชิงผนังติดตามขอบผนัง แล้วใช้ซีโคลนยาแนวขอบอีกรอบ เพียงแค่นี้ก็จบแล้ว การใช้งานเรียบร้อยแล้ว

 

กระเบื้องยาง ปูห้องน้ำ ติดผนัง ได้ไหม

กระเบื้องยาง ปูห้องน้ำ ได้ไหม ? เวลาเราพูดถึงเรื่อง กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงกระเบื้องเซรามิคด้วยความคุ้นเคย และคุณสมบัติหลักที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาถูก การดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย  ช่างส่วนใหญ่ก็มีความชำนาญในการติดตั้ง แต่ยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไปผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจกับสไตล์การแต่งบ้านมากขึ้น การตกแต่งห้องต่าง ๆ ก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็เริ่มมีการใช้วัสดูปูพื้นชนิดอื่น ๆ นำมาปูพื้นห้องน้ำมากขึ้น จึงเกิดคำถามขึ้นว่า ใช้กระเบื้องยางได้ไหม ? เพราะหลายคนเห็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของกระเบื้องยาง ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ทนความร้อนได้ดี ไม่ลามไฟ ทนต่อรอยขีดข่วน ทำให้เข้าใจผิดว่า กระเบื้องยาง สามารถเอามาปูพื้นห้องน้ำได้

 

 

กระเบื้องยาง ปูห้องน้ำ ไม่ได้เพราะ …….

แม้มีความสามารถในการทนความชื้นมากกว่าวัสดุปูพื้นบางประเภท แต่กระเบื้องยางไม่สามารถทนความชื้นได้ตลอดเวลา เพราะห้องน้ำมีความเปียกชื้นอยู่ตลอด อีกทั้งยังมีคราบสบู่ ยาสระผม หรือคราบสารเคมีต่าง ๆ แม้กระเบื้องยางจะทำมาจาก PURE PVC (PVC บริสุทธิ์) หรือ โพลิเมอร์ และผู้ผลิตจะพยายามพัฒนานวัฒกรรมเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานของผู้บริโภค จนทำให้เกิดกระเบื้องยางหลากหลายประเภท เช่น แบบทากาว, แบบคลิ๊กล็อค, แบบ LVT, แบบ SPC, แบบ BOWEN และแบบ LOOSELAY ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครอบคลุมที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองในเรื่องของการทนความชื้นสูงได้ 100 % แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานกระเบื้องยางจริง ๆ แนะนำให้เลือกใช้เป็นกระเบื้องอยาง SPC

กระเบื้องยาง SPC กระเบื้องยางที่เหมาะกับปูพื้นห้องน้ำ

หากต้องการวัสดุปูพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องยางจริง ๆ กระเบื้องยาง SPC จะดีที่สุดในวัสดุประเภทกระเบื้องยางทั้งหมด เพราะกระเบื้องยาง SPC มีส่วนผสมของหินต่างจากกระเบื้องยางประเภทอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมจากพลาสติก เมื่อน้ำซึมเข้าไปตัวกระเบื้องยาง SPC โมเลกุลของหินจะช่วยในการดันโมเลกุลของน้ำ ไม่ให้โมเลกุลโดยรวมของกระเบื้องยาง SPC หดตัวไปมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นกระเบื้องยางเกิดการโก่ง การบวม และเกิดการกระเดิดขึ้นในที่สุด เพราะฉะนั้น กระเบื้องยาง SPC เหมาะที่สุดในบรรดากระเบื้องยางที่จะนำไปใช้เป็นวัสดุปูพื้นห้องน้ำ แต่ถ้าแนะนำจริง ๆ ไม่แนะนำให้ใช้กระเบื้องยางเป็นวัสดุปูพื้นห้องน้ำสักเท่าไหร่นัก ควรเลือกใช้วัสดุปูพื้นชนิดอื่น ๆ  สำหรับวิธีการเลือกซื้อกระเบื้องที่ใช้ในห้องน้ำสามารถเลือกดูได้จากวิธีการดังนี้

กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก?

อย่างที่เราทราบกันดีว่าในห้องน้ำมีทั้งความชื้น คราบสบู่ คราบยาสระผม คราบต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการลื่นหกล้ม ดังนั้น การเลือกกระเบื้องในห้องน้ำ ผิวสัมผัสของกระเบื้องจะต้องไม่เรียบเนียน ควรมีผิวสัมผัสที่หยาบและสากเท้าไม่มากก็น้อย ซึ่งความสากเราจะเรียกว่าค่า R หรือ SLIP RESISTANCE RATING เรียกสั้น ๆ ว่าค่ากันความลื่น เป็นค่าที่ได้มาจากการทดสอบ RAMP TEST ที่พื้นในระดับความลาดชันต่างๆ ซึ่งกระเบื้องที่เหมาะสำหรับใช้ปูพื้นห้องน้ำต้องมีค่า R10 ขึ้นไป ยิ่งตัวเลขมากจะยิ่งกันความลื่นได้มาก ลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ทั้งยังทนทานต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว เราสามารถสังเกตค่า R ได้จากข้างกล่องกระเบื้อง หรือสอบถามพนักงาน หรือช่างผู้ติดตั้งได้

อยากปูพื้นห้องน้ำต้องเลือกกระเบื้องชนิดไหน

กระเบื้องที่เหมาะกับการปูพื้นห้องน้ำที่สุด จะเป็นกระเบื้องพื้นแกรนิตโต้เพราะกระเบื้องแกรนิตโต้มีอัตราการดูดซึมน้ำที่ค่อนข้างต่ำ มีความแข็งแรงทนทาน มีค่า R ที่ค่อนข้างสูงกันลื่นได้ดี มีความมันวาวน้อยกว่ากระเบื้องเซรามิค จะเหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำมากที่สุด แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง, น้ำหนักที่มากและการติดตั้งที่ยาก รองลงมาเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องยางติดผนัง ได้ไหม ?

ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเราสามารถนำ กระเบื้องยางปูผนัง ได้ไหม ? แอดมินขอแจ้งเลยว่าสามารถทำได้ แต่จะมีข้อแนะนำในส่วนนี้ว่า ผนังของห้องต้องไม่มีความชื้นหรือมีความชื้นน้อยมาก ๆ เนื่องจากกระเบื้องยางที่ใช้ในการปูผนังจะใช้กาวในการยึดติดกระเบื้องยางทั้งแบบคลิ๊กล็อคและแบบไวนิลทั่วไป ดังนั้นหากมีความชื้นเนื้อกาวจะเกาะผนังไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ และกาวที่ใช้ต้องมีความสามารถในการยึดเกาะสูง ความหนาที่เหมาะสมในการเลือกใช้กระเบื้องยางปูผนังอยู่ที่ 1.6 ถึง 4 มิล ไม่ควรเกิน 4 มิล เนื่องจากในการติดผนังตัวแผ่นของกระเบื้องยางต้องมีน้ำหนักที่น้อย

4 ขั้นตอน วิธีปูกระเบื้องยาง ด้วยตัวเอง และ ปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องยาง

วิธีปูกระเบื้องยาง ด้วยตัวเอง สามารถทำได้ไหม ? ยากเกินไปหรือเปล่า ? เป็นคำถามที่มีผู้คนสงสัยถามเข้ามากันเยอะมาก ๆ ซึ่งแอดมินต้องบอกเลยว่า ปูกระเบื้องยางเอง นั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของช่างไปได้มากเลยทีเดียว ซึ่งก่อนที่จะเริ่มปูกระเบื้องยางสิ่งแรกที่ควรสำรวจก่อนเลย คือ ตรวจสอบความชื้นบริเวณพื้นที่ที่ต้องการปู หากมีความชื้นตลอดเวลา อาจจะต้องตัดใจการปู กระเบื้องยาง เนื่องจากเป็นสาเหตุทำให้กระเบื้องหดตัว กาวหย่อนประสิทธิภาพ เกิดปัญหาหลังปูกระเบื้องยางในภายหลัง แต่หากไรปัญหาความชื้นก็สามารถปูกระเบื้องยางได้ ซึ่งเรามาเรียนรู้ขั้นตอนที่สำคัญก่อนทำการปูกระเบื้องยางกัน นั้นก็คือ การปรับพื้นปูกระเบื้องยาง นั้นเอง

ปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องยาง ต้องรู้อะไรบ้าง ?

การปรับพื้นถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะทำการปูพื้น โดยเฉพาะหน้างานภายในอาคาร หรือ พื้นที่ต้องมีวัสดุปิดทับ เช่น ลามิเนต พื้นไม้ปาเก้ พื้นพรม รวมไปถึง กระเบื้องยาง เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เหมาะสมกับการปูทับ และป้องกันปัญหาเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตนั่นเอง วันนี้แอดมินจึงมาให้ความรู้เทคนิคก่อนที่จะทำการปรับพื้นกันว่ามีอะไรบ้าง

คุณสมบัติของการปรับพื้นที่ดีคืออะไร ?

  1. ความเรียบเนียน เนื่องจากกระเบื้องยางส่วนใหญ่มีขนาดและวัสดุหลากหลาย จะทำมาทากาว หรือ คลิ๊กล็อคแบบไม่ต้องใช้กาว ในการปรับพื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตำแหน่งไหนที่ไม่เรียบเนียน ก็จะทำให้กระเบื้องยางเกิดความเสียหายได้ อาจไปถึงการรื้อเพื่อซ่อมแซมซึ่งเสียเวลา
  2. พื้นมีระดับเดียวกัน นอกจากความเรียบเนียนของพื้นแล้ว ระดับของพื้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงพื้นจะเรียบเนียน แต่มีความลาดเอียง พื้นเป็นแอ่ง หรือ ไม่ได้ระดับ เวลาปูวัสดุไปจะเกิดคลื่นทำให้ไม่สวยงาม
  3. ความสะอาดของพื้น ไม่มีฝุ่นผง หรือ สิ่งสกปรก ก่อนปูกระเบื้องลงไป ไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องสำรวจให้ดีว่ามีสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรก อย่างเช่น ฝุ่นผง น็อตตะปูจากการทำงานให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นขรุขระ ทำให้มีการรื้อพื้นซ่อมแซมเสียเวลาระหว่างวันเพิ่ม

5 ขั้นตอนการปรับพื้น ก่อนปูกระเบื้องยาง

  1. ความเรียบเนียน เนื่องจากกระเบื้องยางส่วนใหญ่มีขนาดและวัสดุหลากหลาย จะทำมาทากาว หรือ คลิ๊กล็อคแบบไม่ต้องใช้กาว ในการปรับพื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตำแหน่งไหนที่ไม่เรียบเนียน ก็จะทำให้กระเบื้องยางเกิดความเสียหายได้ อาจไปถึงการรื้อเพื่อซ่อมแซมซึ่งเสียเวลา พื้นมีระดับเดียวกัน นอกจากความเรียบเนียนของพื้นแล้ว ระดับของพื้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงพื้นจะเรียบเนียน แต่มีความลาดเอียง พื้นเป็นแอ่ง หรือ ไม่ได้ระดับ เวลาปูวัสดุไปจะเกิดคลื่นทำให้ไม่สวยงาม ความสะอาดของพื้น ไม่มีฝุ่นผง หรือ สิ่งสกปรก ก่อนปูกระเบื้องลงไป ไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องสำรวจให้ดีว่ามีสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรก อย่างเช่น ฝุ่นผง น็อตตะปูจากการทำงานให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นขรุขระ ทำให้มีการรื้อพื้นซ่อมแซมเสียเวลาระหว่างวันเพิ่ม
  2. ความเรียบเนียน เนื่องจากกระเบื้องยางส่วนใหญ่มีขนาดและวัสดุหลากหลาย จะทำมาทากาว หรือ คลิ๊กล็อคแบบไม่ต้องใช้กาว ในการปรับพื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตำแหน่งไหนที่ไม่เรียบเนียน ก็จะทำให้กระเบื้องยางเกิดความเสียหายได้ อาจไปถึงการรื้อเพื่อซ่อมแซมซึ่งเสียเวลา พื้นมีระดับเดียวกัน นอกจากความเรียบเนียนของพื้นแล้ว ระดับของพื้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงพื้นจะเรียบเนียน แต่มีความลาดเอียง พื้นเป็นแอ่ง หรือ ไม่ได้ระดับ เวลาปูวัสดุไปจะเกิดคลื่นทำให้ไม่สวยงาม ความสะอาดของพื้น ไม่มีฝุ่นผง หรือ สิ่งสกปรก ก่อนปูกระเบื้องลงไป ไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องสำรวจให้ดีว่ามีสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรก อย่างเช่น ฝุ่นผง น็อตตะปูจากการทำงานให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นขรุขระ ทำให้มีการรื้อพื้นซ่อมแซมเสียเวลาระหว่างวันเพิ่ม
  3. กรณีพื้นคอนกรีต ให้สำรวจรอยแตกร้าว : พื้นคอนกรีตก็ต้องสำรวจ เพราะพื้นคอนกรีตมีโอกาสรอยเกิดแตกร้าวจะส่งผลเสียต่อการปูกระเบื้องยาง ในการซ่อมแซมพื้นคอนกรีต แนะนำให้ใช้ปูนปรับระดับ เพราะเหมาะสำหรับงานซ่อมแซมรอยแตกร้าวหนาได้ถึง 8-35 มม. และปรับพื้นเพื่อเสริมความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการปูกระเบื้องยางทุกประเภท
  4. คุณภาพของปูนปรับระดับเป็นสิ่งสำคัญ : ความละเอียดของงานอาจไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาภายหลังได้ ถ้าเลือกใช้ปูนที่ไม่มีคุณภาพ ควรเลือกใช้ปูนให้เหมาะสม ส่วนใหญ่เราจะเห็นการใช้ปูนเหลวเป็นหลักในการซ่อมแซม เพราะสะดวก รวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติของปูน สำหรับงานที่ต้องผิวหน้าปูนที่เรียบ และ ดูดซึมน้ำ ก็คงจะเป็นตัวไหนไปไม่ได้ ARDEX-X 310 ที่มีคุณสมบัติรับกำลังอัดสูงถึง 28 N/mm2 แห้งตัวได้เร็วสามารถเดินได้ภายใน 3 ชม. ขัดพื้นผิวง่าย มีความคงรูป คงตัวดี เหมาะกับงานปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องทุกชนิด
  5. ติดตั้งกระเบื้องยาง : หลังจากทำการปรับพื้นรวมไปถึงเวลาในการแห้งตัวสำเร็จเสร็จสิ้น ให้ทำการปูกระเบื้องยางได้เลย เพื่อให้แผ่นกระเบื้องยางที่ปู ออกมาเป็นระเบียบสวยงาม

อุปกรณ์สำหรับปูกระเบื้องยาง

  • กาวขาวสำหรับติดพื้นไม้
  • กาวยาง
  • เหล็กแซะ
  • หินขัดพื้นชนิดหยาบ
  • คัตเตอร์
  • ตลับเมตร
  • ไม้กวาด
  • พัดลม
  • เชือกตีฝุ่นคลุก (บักเต้า)
  • ลูกกลิ้ง 30 – 50 กิโลกรัม
  • เกรียงลงกาว
  • ไม้ม็อบถูพื้น

วิธีปูกระเบื้องยาง ด้วยตัวเอง

  • ขั้นตอนแรก คือ ปรับพื้นให้เรียบเนียนปราศจากคราบฝุ่น คราบน้ำมัน และที่สำคัญพื้นต้องแห้ง เพื่อให้กาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ขั้นตอนที่ 2 กำหนดแนวห้อง จุดเริ่มในการปูหากเป็นห้องขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน ควรเริ่มจากประตูเข้าไปด้านใน แตกต่างจากการติดตั้งห้องที่มีพื้นที่เยอะ ๆ จะเริ่มวางกระเบื้องยางแผ่นแรกที่กลางห้องแทน
  • ขั้นตอนการลงกาว การทากาวลงบนพื้นที่ติดตั้งจะเทคราวครั้งละไม่เกิน 30 ตารางเมตร หรือเทประมาณ 1 – 2 กิโลกรัม (ไม่เทครั้งเดียวจนครบพื้นที่) และใช้เกรียงหวีปาดครึ่งวงกลมรอจนกาวแห้งเปลี่ยนเป็นสีใส
  • ขั้นตอนการติดกระเบื้อง การติดกระเบื้องจะมีเทคนิคในการปูหลากหลายทั้งปูแบบก้างปลา ปูลายขัด ไม่นิยมปูกระเบื้องทับกัน หลังจากปูเสร็จจะใช้ลูกกลิ้ง กลิ้งทับกระเบื้องเพื่อให้แนบสนิทกับพื้น

Back to Top

นโยบายการคืนเงิน

เงื่อนไขการคืนเงิน

  1. กรณีลูกค้าเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต

1.1 หากมีการยกเลิกรายการก่อนทำการบรรจุสินค้าลงกล่อง ทางบริษัทฯ จะทำการคืนวงเงินกลับไปยังบัญชีบัตรเครดิตภายในวันทำการถัดไป

1.2 กรณีที่มีการคืนสินค้าหลังได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงคืนวงเงินไปยังบัญชีบัตรเครดิต หรือ Paypal ของลูกค้าภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

  1. กรณีลูกค้าชำระด้วยวิธีการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 1

2.1 สำหรับรายการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

2.2 สำหรับรายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

เงื่อนไขการรับประกัน

บริษัทฯ รับประกันสินค้าเป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้า และมีเงื่อนไขและข้อกำหนดดังนี้

  1. ภายใต้ระยะเวลาของการรับประกัน บริษัทฯ อาจทำการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ
  2. หลังจากซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า การนับระยะเวลารับประกันจะเริ่มนับต่อเนื่องจากที่เหลืออยู่
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของบริษัทฯ
  4. สินค้าที่ส่งเคลม จำเป็นต้องทิ้งไว้เพื่อตรวจสอบความบกพร่องหรืออาการเบื้องต้นก่อน
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าที่เสียหายที่อยู่นอกข่ายการรับประกัน หรือ สินค้าที่หมดประกันแล้ว

การรับประกันที่ถือเป็นโมฆะตามเงื่อนไข

  1. สินค้าไม่มี void รับประกันของบริษัทฯ หรือไม่มีหมายเลขเครื่องสินค้า (S/N) หรือสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯหรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นสินค้าของบริษัทฯ
  2. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากการดัดแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซม โดยบุคคลที่ไม่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ การแกะ/ชำแหละ/ดัดแปลงแปลงแก้ไขโดยผู้ใช้
  3. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ น้ำ อาหาร ความชื้น อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป
  4. สินค้าที่เสียหายจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การติดตั้งผิดพลาด การตกกระแทกแตกหักเสียหาย สัตว์เลี้ยงกัดแทะ ฯลฯ มีผลให้สินค้าเสียหาย เป็นต้น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ จะพยายามอธิบายผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำบรรยายผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์จะปราศจากข้อผิดพลาดทั้งมวล ดังนั้นหากท่านไม่พอใจในสินค้า หรือเห็นว่าไม่ตรงกับคำบรรยาย บริษัทฯ ยินดีที่จะรับคืนสินค้า (ตามเงื่อนไขการเปลี่ยน คืนสินค้า) เช่นเดียวกัน บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะแสดงรูปภาพสินค้าที่มีสีที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง แต่สีที่แสดงบนหน้าจอของท่านอาจผิดเพี้ยนได้ตามการตั้งค่าของหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันไป

  1. การป้องกันการฉ้อโกง
    บริษัทฯ มีกระบวนการตรวจสอบการฉ้อโกงหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือระงับคำสั่งซื้อ หากตรวจพบบัญชีที่มีประวัติการฉ้อโกง และฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทฯ อาจติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้ท่านยืนยันคำสั่งซื้อได้ บริษัทฯ อาจยกเลิกบัญชีของผู้ใช้บริการ หากตรวจพบการฉ้อโกงหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯ บังคับใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการของเรา รวมทั้งบริษัทฯ เองจากการถูกต้มตุ๋น หลอกลวง หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  2. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
    บริษัทฯ ยินดีรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากท่านเกี่ยวกับเว็บไซต์ สินค้าและบริการของบริษัทฯโดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่ถือเป็นความลับ และอาจถูกนำไปใช้ ดัดแปลง ทำซ้ำ และเผยแพร่ได้เพื่อจุดประสงค์ใดๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่เชื่อมโยงชื่อนามสกุลของท่านกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของท่าน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อนเว้นแต่ในกรณีที่เป็นการขัดต่อข้อกฎหมายเท่านั้น

นโยบายการจัดส่ง

บริษัทฯ ยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 14 วันหลังจากการสั่งซื้อ ตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ทางบริษัทฯจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าผิดจากรายละเอียดจากการยืนยันการสั่งซื้อครั้งล่าสุดจากทางบริษัท ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
  2. ในกรณีที่มีปัญหาจากตัวสินค้าชำรุดเสียหายเนื่องจากการผลิต หรือสินค้าเกิดความเสียหายเนื่องจากการขนส่งจากทางบริษัท ทางบริษัทฯยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ