หน้าแรก
สินค้า
แชทไลน์

banner

ท่ออากาศ ส้วม ชักโครก คืออะไร ? สูงเท่าไหร่ดี ? ถึงระบายกลิ่นเหม็นได้ดี ?

ท่ออากาศ คือ ท่อที่ต่อไว้เพื่อระบายอากาศจากระบบท่อน้ำทิ้งและท่อส้วม อธิบายง่ายๆ คือ มีอากาศสะสมอยู่ภายในท่อตั้งแต่โถไปจนถึง ถังบำบัด เมื่อเรากด ชักโครก น้ำจะดันอากาศจนต้องหาทางระบายออก ดังนั้น ควรมีรูหรือช่องเปิดสำหรับระบายอากาศออก นอกจากนี้ยังช่วยให้สิ่งปฏิกูลไหลลงไปได้ดีขึ้นด้วย ในกรณีที่ไม่มีท่อระบายอากาศ เมื่อเรากดชักโครกจะเกิดความดันลบ คือการดูดอากาศเข้าเพื่อให้สิ่งปฏิกูลไหลลงไปได้ดีขึ้น แต่การดูดอากาศในขณะที่ไม่มีท่อระบายอากาศ หรือท่อระบายอากาศอยู่ไกลเกินไป ทำให้เกิดการลักอากาศจากท่อที่อยู่ใกล้ที่สุด น้ำในคอห่านอาจถูกดึงออกมาด้วย พูดง่ายๆ ก็คือท่อเดินกลิ่นไปยังที่ที่ควรจะส่งไปนั่นเอง หากไม่มีท่ออากาศ กลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์จะไม่มีทิศทางในการระบายออก จะส่งผลทำให้อากาศและสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นไม่พึงประสงค์

ท่ออากาศ ควรสูงเท่าไหร่ถึงจะดี ?

การติดตั้ง ท่อระบายอากาศ นอกจากจะช่วยในการระบายกลิ่นของเสียแล้วนั้น ยังช่วยป้องกันการไหลย้อนกลับของอากาศทำให้การกดชักโครกดีขึ้นด้วย ส่วนของการติดตั้งท่อนั้นควรคำนึงถึงความสูงและวัสดุเป็นสำคัญ หากติดตั้งไม่ได้มาตราฐานจะประสบปัญหานอกจากกลิ่นไม่ถูกระบายออกแล้ว ยังอาจทำให้การกดชักโครกไม่ลงด้วย การติดตั้งที่ควรคำนึงมีดังนี้

  • ใช้ท่อระบายอากาศตัว T แทนท่อระบายอากาศรูเดียว เพื่อป้องกันการอุดตันที่อาจเกิดขึ้นได้กับรูระบายอากาศท่อแบบรูเดียวได้
  • ติดตั้งตะแกรงหรือตาข่ายขนาดเล็กบริเวณปากท่อเพื่อไม่ให้แมลง สัตว์ หรือสิ่งสกปรกอุดตันหรือเข้าไปภายในท่อ
  • ระดับความสูงของท่อไม่ควรน้อยกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมถึงพื้นที่หน้างานของแต่ละท่าน หากทำระดับต่ำอาจต้องรื้อทำใหม่ให้ได้ความสูง เพื่อเมื่อเวลาน้ำท่วมการระบายอากาศจะไม่ได้ประสิทธิภาพและแรงดันจากน้ำที่เข้าในไปในท่อจะทำให้กดชักโครกไม่ได้ (ระดับความสูงที่แนะนำ คือ เหนือความสูงคนหรือระดับหลังคาจะช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นรบกวน)

ท่อระบายอากาศ สำคัญกับ ส้วม อย่างไร ?

ท่อระบายอากาศกับส้วมนับว่าสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่สูงกว่าชักโครกขอแค่มีท่อแล้วอากาศในถังส้วมออกได้ ส่วนปลายท่อจะอยู่ไหน ก็แล้วแต่ความเหมาะสม อย่าให้กลิ่นลอยรบกวนเท่านั้น

  1. ท่ออากาศส้วมสามารถช่วยระบายอากาศได้
  2. ท่ออากาศส้วมที่ดีจะทำให้สิ่งปฏิกูลไหลลงได้อย่างดี

ติดตั้งท่ออากาศอย่างไรให้ถูกต้อง ?

ตำแหน่งการติดตั้งควรจะติดตั้งที่ถังบำบัดน้ำเสีย ระดับความสูงของปลายท่อให้สูงกว่าระดับน้ำท่วม ปลายท่อต้องมีที่ป้องกันสัตว์ด้วย ในกรณีที่โถสุขภัณฑ์อยู่ห่างจากถังบำบัด จะต้องติดตั้งท่อระบายอากาศให้ปลายของท่ออยู่เหนือระดับของสุขภัณฑ์ โดยควรซ่อนปลายท่อให้อยู่ในตำแหน่งที่มิดชิด และเป็นตำแหน่งที่กลิ่นไม่รบกวน

วิธีแก้ท่ออากาศส้วมตัน ?

ส่วนใหญ่ปัญหาท่อระบายอากาศตันมักจะเกิดขึ้นบริเวณปากท่อ หากเกิดการอุดตันบริเวณปากท่อให้นำเอาสิ่งที่อุดตันนั้นออกไป แต่หากเกิดบริเวณภายในท่อให้ใช้งูเหล็กหรือฉีดน้ำแรง ๆ ชำระล้างแทน เพื่อให้สิ่งที่อุดตันอยู่ภายในไหลลงสู่ระบบกรองหรือเกรอะต่อไป ก่อนเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนของเสียเพื่อระบายเป็นน้ำที่ดีต่อไป

10 ห้ามทิ้งขยะลงในชักโครก จะทำให้เกิดปัญหาส้วมตัน

ห้ามทิ้งขยะลงในชักโครก ! นับเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ! เวลาเราไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ มักจะเห็นป้ายเตือน ” ห้ามทิ้งสิ่งของ กระดาษทิชชู่ ลงใน ชักโครก ” บางคนก็ปฏิบัติตามบางคนก็ขัดต่อการปฏิบัติ ถ้าไม่รู้จักยับยั้งพฤติกรรมของตนเอง จะส่งผลกระทบไปสู่ความเดือดร้อนของตนเองและผู้อื่น นั่นก็คือปัญหา “ส้วมตัน” หากเกิดขึ้นคงจะวุ่นวาย เสียเวลาชีวิต โดยเฉพาะหากทิ้งในชักโครกห้องน้ำบ้านพักอาศัยของตนเอง หากเกิดปัญหานี้แล้วอาจจะต้องรื้อ ถังบำบัด ขึ้นมาใหม่เลยทีเดียว นับว่าเป็นปัญหาที่ไม่สามารถจะแก้ไขด้วยตัวเองได้ ต่างจากปัญหาจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นงาน พื้น ฝ้า ผนัง เพดาน ที่มัก รั่ว ซึม เสื่อมสภาพ ตามระยะเวลาในการใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถจะแก้ไขด้วยตัวเองได้ วันนี้เราจึงรวบรวม “สิ่งของต้องห้ามในการทิ้งลงชักโครก” จะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมๆ กัน

 

 

10 วัสดุ ห้ามทิ้งขยะลงในชักโครก

  1. กระดาษชำระ / ทิชชู่เปียก

แม้จะเป็นกระดาษบางๆ แต่ก็ไม่ใช่กระดาษที่จะย่อยสลายในน้ำเหมือนทิชชูบางชนิด แถมยังมีความหนาและเนื้อเหนียว หากกดทิ้งลงไปในชักโครกก็จะกลายเป็นขยะตกค้างอยู่ในท่อและต้องมาตามแก้ไขปัญหากันทีหลังแน่นอน !!

  1. คอตตอนบัด / สำลี

ของใช้ทั้ง 2 ชนิดผลิตจากฝ้าย ซึ่งเป็นวัสดุที่ดูดซับน้ำได้ดี หากสำลีเข้าไปค้างอยู่ท่อระบาย ก็จะค่อยๆ สะสมและจับตัวเป็นขยะก้อนใหญ่ขวางท่อ แถมยังเอาออกยากอีกด้วย

  1. แพมเพิร์ส

ของใช้เด็กที่ผลิตด้วยพลาสติก ถูกออกแบบมาให้ขยายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำ เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดที่จะทิ้งไปลงไปเด็ดขาด !! ถ้าหากเข้าไปติดตรงคอห่าน อาจจะต้องรื้อชักโครกเพื่อดึงแพมเพิร์สกันเลยทีเดียว

  1. ผ้าอนามัย / ถุงยาง

ผ้าอนามัยก็ผลิตไม่ต่างจากแพมเพิร์สเด็ก มีการขยายตัวเมื่อถูกน้ำ ส่วนถุงยางก็จะมีความเหนียวย่อยสลายยาก จึงกลายเป็นปัญหาท่อตัน ทางที่ดีควรห่อทิ้งลงถังขยะดีกว่า

  1. ทรายแมว

แม้จะเป็นของเสียที่สัตว์เลี้ยงถ่ายทิ้งไว้ ก็ไม่ควรเททิ้งลงชักโครก เพราะว่าทรายแมวบางชนิดเมื่อโดนน้ำจะพองออกจากขนาดปกติได้มากถึง 15 เท่า หากต้องการทิ้งทรายแมว ควรตักใส่ถุงพลาสติกแล้วทิ้งลงถังขยะไปเลย

  1. ยา

อาจไม่เกี่ยวกับท่ออุดตันโดยตรง แต่หากทิ้งลงไปจนเข้าไปสะสมในท่อมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการทิ้งยาลงไปในชักโครกเป็นการทำลายธรรมชาติทางอ้อม จากสารเคมีที่ปนเปื้อนไปกับน้ำและเป็นการทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในถังเก็บของเสียอีกด้วย

  1. ไหมขัดฟัน

ไหมขัดฟันเส้นเล็ก ๆ แต่กลับสร้างปัญหาใหญ่ เพราะไม่สามารถย่อยสลายในน้ำได้ หากกดทิ้งลงไปในชักโครกก็กลายเป็นที่ดักจับขยะเอาไว้ ค่อย ๆ สะสมเป็นก้อนใหญ่ค้างอยู่ในท่อน้ำนั่นเอง

  1. พลาสเตอร์ยาปิดแผล

เนื่องจากพลาสเตอร์ยาปิดแผลผลิตด้วยพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง การทิ้งผิดวิธีนอกจากจะทำลายธรรมชาติแล้ว ยังเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ท่อน้ำอุดตันหากทิ้งลงในชักโครกด้วย

  1. ก้นบุหรี่

ไม่ใช่แค่ทำให้ชักโครกดูสกปรกเพราะกดก้นบุหรี่ทิ้งไปไม่ได้ หรือกดทิ้งลงไปแล้วจะทำให้ท่ออุดตันเท่านั้น แต่ในบุหรี่ยังมีสารเคมีตกค้างมากมาย ได้แก่ ท็อกซิน (Toxin) นิโคติน (Nicotine) ที่ปนเปื้อนไปกับน้ำ

  1. น้ำมันและไขมัน

วิธีการทิ้งที่ถูกต้องคือ ใส่ถุงปิดปากถุงให้สนิทแล้วแล้วทิ้งลงถังขยะดีกว่าการเททิ้งลงชักโครก เพราะเมื่อน้ำมันเข้าสู่ท่อก็จะกลายสภาพเป็นไขมันเกาะตามผนังท่อและขวางทางระบายน้ำเมื่อมีการสะสมมากขึ้น

วิธีแก้ไขส้วมตันเบื้องต้น

สำหรับการแก้ปัญหาส้วมตันเบื้องต้น ให้ใช้ที่ปั๊มท่อตันหรืองูเหล็กมาดันสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ลงไป เพื่อให้น้ำของชักโครกสามารถไหลได้แบบปกติ โดยหลังจากนั้นก็พยายามอย่าทิ้งขยะหรือสิ่งต่าง ๆ ลงไปในชักโครก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาท่อตันได้ ส่วนถ้าบ้านไหนมีปัญหาส้วมตันบ่อย ๆ  ก็ควรต้องตามช่างมาหาสาเหตุและจัดการให้ด่วนที่สุด

ถังบําบัดนํ้าเสีย ถังแซท คำนวณ อย่างไร ให้ได้ขนาดที่เหมาะกับการใช้งาน ?

ถังบําบัดนํ้าเสีย คืออะไร ถังบำบัดน้ำเสีย หรือ ถังแซท นับว่ามีประโยชน์ต่อการใช้งานในกิจวัตรประจำวันของเรามาก หลายคนอาจจะ งง ไม่ทราบว่าไปใช้งานตอนไหน ไม่เคยพบเคยเห็นเจ้าถังนี้มาก่อนเลย ต้องไม่เคยเห็นอย่างแน่นอนเพราะถังบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่แล้วจะฝังอยู่ใต้ดินของบ้าน อาคาร บริเวณที่ตรงกับ ห้องน้ำ หรือ ชักโครก ซึ่งถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปมีหน้าที่ในการบำบัดของเสียหรืออุจจาระ นั้นเอง โดยใช้จุลินทรีย์ด้านในถังกำจัดกากของ ๆ เสีย หรือ ตะกอน ในพื้นที่ก้นถัง ค่อยๆ ย่อยสลาย ทำให้ไม่เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และสามารถบัดบัดน้ำเสียให้สะอาดพอที่จะปล่อยออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะได้ โดยตัวถังจะมีบ่อเกรอและบ่อซึมรวมไว้ในตัว ทำให้สะดวกกับการใช้งานมากกว่าบ่อซึม

ถังบําบัดนํ้าเสีย มีกี่ประเภท ?

ด้านในถังบำบัดส่วนใหญ่จะมีระบบในการบำบัดของเสียอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนเกรอะและส่วนกรอง โดยส่วนเกรอะจะเป็นด่านแรกในการรับของของเสีย มีหน้าที่ในการแยกตะกอนและกากของเสียขนาดใหญ่ให้เล็กลงและล่วงลงด้านล่างถังได้ หากแยกตะกอนออกไม่หมดส่วนกรองจะทำหน้าที่กรองตะกอนที่ตกค้างอีกชั้นนึง เพื่อให้จุลินทรียที่อยู่ส่วนล่างถังสามารถกำจัดของเสียได้ เพื่อให้ได้น้ำที่มี ค่าบีโอดี BOD (Biological Oxygen Demand ) ที่สามารถปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือบ่อพักต่อไป ซึ่งการใช้งาน ถังบำบัดน้ำเสีย สำเร็จรูป มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ

  1. แบบไม่เติมอากาศ ใช้จุลินทรีย์ในการช่วยกำจัดของเสีย
  2. แบบเติมอากาศ ใช้ออกซิเจนในการเลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อเร่งให้เกิดปฎิกิริยาเคมีทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียมากกว่าแบบไม่เติมอากาศ

วิธีคำนวณ ขนาด ถังแซท ถังบำบัด อย่างไรให้เหมาะสม

ขั้นตอนการคำนวนหาปริมาณหรือจำนวนลิตรที่เหมาะสมกับการใช้งานนั่นสามารถทำได้ไม่อยาก เพราะมีสูตรในการคำนวนเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนอื่นเราต้องทราบข้อมูลดังต่อไปนี้เพื่อใช้ในการคำนวน

  • จำนวนผู้ที่พักอาศัยหรือจำนวนผู้ใช้งานห้องน้ำ
  • จำนวนการใช้น้ำของคนในแต่ละวัน ถ้าหากไม่ทราบให้ลองคำนวนจากการกดชักโครก 1 ครั้งใช้น้ำประมาณ 12 ลิตร  แต่ชักโครกบางรุ่นอาจจะต่ำกว่านี้ดังนั้นให้ลองประเมินคราวๆ หากเป็นบ้านของเราเองและเราเอง อยู่บ้านใช้ห้องน้ำที่บ้านตลอดเวลา จะใช้ห้องน้ำประมาณ 5 หรือเต็มที่ 10 ครั้งต่อวัน เท่ากับใช้น้ำในห้องส้วมประมาณ 120 ลิตรต่อวัน
  • ปริมาณน้ำเสีย (ร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำใช้ต่อวัน)
  • เวลาที่ใช้บำบัด (เฉลี่ย 2 วัน)

สูตรการคำนวนมีอยู่ว่า จำนวนผู้อาศัย x ปริมาณน้ำเสีย หรือ 0.8 x ปริมาณน้ำใช้ต่อคนต่อวัน (ลิตร) x เวลาที่ใช้บำบัด หรือ 2 = ขนาดของตัวถัง (ลิตร )
ยกตัวอย่างเช่น มีผู้อาศัย 5 คน จะได้ ขนาดของตัวถังอยู่ที่ 5×0.8x120x2 = 1536 ลิตร หรือต้องใช้ถังขนาด 1600 ลิตร

ถังแซท ถังบําบัดนํ้าเสีย 2000 ลิตร

ส้วมเต็ม ปัญหาที่เกิดจาก ถังบำบัดน้ำเสีย ถังแซก

ส้วมเต็ม นับเป็นปัญหาที่น่านักใจสำหรับทุกบ้าน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน “จุลินทรีย์ที่ใช้เป็นกระบวนการย่อยสลายของเสียที่อาศัยอยู่ใน ถังเกรอะ หรือ ถังบำบัด มีจำนวนน้อยเกินไป ทำให้ย่อยสลายกากของเสียไม่ทัน” แต่ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ส้วมเต็ม เช่น

  • การใช้สารเคมีหรือน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างรุนแรงบริเวณรอบโถสุขภัณฑ์ เมื่อสารเคมีเหล่านี้หลุดลงไปในถังบำบัดน้ำเสียแทนที่จะเป็นท่อน้ำเสียเป็นจำนวนมากจนเกินไป ทำให้จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ก้นถังเกิดตายปริมาณจุลิทรีย์จึงไม่เพียงพอต่อการย่อยสลายนั่นเอง
  • สาเหตุที่สองที่พบบ่อยไม่ต่างจากสาเหตุแรก คือปริมาณการใช้งานไม่เหมาะสมหรือสอดคล้องกับขนาดของ ถังบำบัด ยกตัวอย่างเช่น ถังขนาด 600 ลิตร แต่กับใช้งานในโรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งมีปริมาณผู้ใช้งานจำนวนมากทำให้ถังบำบัดเต็มไวจนเกิน สำหรับวิธีแก้ไขอาจต้องต่อถังเพิ่มอีกถัง หรือ ขุดถังเก่าเปลี่ยนเป็นถังใหม่ขนาดเหมาะสมกับปริมาณการใช้งาน หากเลือกซื้อถังควรศึกษาขนาดบรรจุถังว่าเหมาะสมหรือตอบโจทย์กับพื้นการใช้งานของท่านอย่างไร
  • หากเลือกใช้งานขนาด ถังบำบัดสำเสียสำเร็จรูป เหมาะสมแล้ว เป็นถังชนิดเติมอากาศจุลินทรีย์ไม่น้อยแต่ยังประสบปัญหาส้วมเต็มอยู่ โดยส่วนใหญ่จะประสบสาเหตุจากการติดตั้งตั้ง เช่น
    • การติดสุขภัณฑ์ไม่ถูกต้อง
    • การติดตั้งท่ออากาศผิดวิธี
    • การติดตั้งรางน้ำจากชักโครกมายัง ถังแซท ไม่ได้ความลาดเอียงที่เพียงพอ เกิดจากการขุดหลุมฝังถังบ่อเกรอะตื้นเกินไป

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้อง บริเวณภายนอกน้ำท่วมขังสูงทำให้ปริมาณถังเก็บของเสียเต็ม หรือ ท่อระบายอากาศมีของอุดทำให้ตัน  เป็นต้น

การเลือกซื้อถังบำบัดน้ำเสีย ที่ดีคืออะไร ?

  • เลือกซื้อกับบริษัทขายถังโดยตรง มี SPCE และ มอก. ระบุ ให้ชัดเจน
  • บริษัทที่สามารถแจ้งราคาทันที
  • สามารถออกแบบขนาดของถังได้ เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานจริง
  • มีบริการจัดส่งได้ตรงเวลา เพราะการติดตั้งถังแซทจะใช้เวลาพอควร
  • สามารถเช็คระยะเวลารับประกันให้ได้อย่างชัดเจน
Back to Top

นโยบายการคืนเงิน

เงื่อนไขการคืนเงิน

  1. กรณีลูกค้าเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต

1.1 หากมีการยกเลิกรายการก่อนทำการบรรจุสินค้าลงกล่อง ทางบริษัทฯ จะทำการคืนวงเงินกลับไปยังบัญชีบัตรเครดิตภายในวันทำการถัดไป

1.2 กรณีที่มีการคืนสินค้าหลังได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงคืนวงเงินไปยังบัญชีบัตรเครดิต หรือ Paypal ของลูกค้าภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

  1. กรณีลูกค้าชำระด้วยวิธีการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 1

2.1 สำหรับรายการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

2.2 สำหรับรายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

เงื่อนไขการรับประกัน

บริษัทฯ รับประกันสินค้าเป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้า และมีเงื่อนไขและข้อกำหนดดังนี้

  1. ภายใต้ระยะเวลาของการรับประกัน บริษัทฯ อาจทำการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ
  2. หลังจากซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า การนับระยะเวลารับประกันจะเริ่มนับต่อเนื่องจากที่เหลืออยู่
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของบริษัทฯ
  4. สินค้าที่ส่งเคลม จำเป็นต้องทิ้งไว้เพื่อตรวจสอบความบกพร่องหรืออาการเบื้องต้นก่อน
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าที่เสียหายที่อยู่นอกข่ายการรับประกัน หรือ สินค้าที่หมดประกันแล้ว

การรับประกันที่ถือเป็นโมฆะตามเงื่อนไข

  1. สินค้าไม่มี void รับประกันของบริษัทฯ หรือไม่มีหมายเลขเครื่องสินค้า (S/N) หรือสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯหรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นสินค้าของบริษัทฯ
  2. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากการดัดแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซม โดยบุคคลที่ไม่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ การแกะ/ชำแหละ/ดัดแปลงแปลงแก้ไขโดยผู้ใช้
  3. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ น้ำ อาหาร ความชื้น อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป
  4. สินค้าที่เสียหายจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การติดตั้งผิดพลาด การตกกระแทกแตกหักเสียหาย สัตว์เลี้ยงกัดแทะ ฯลฯ มีผลให้สินค้าเสียหาย เป็นต้น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ จะพยายามอธิบายผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำบรรยายผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์จะปราศจากข้อผิดพลาดทั้งมวล ดังนั้นหากท่านไม่พอใจในสินค้า หรือเห็นว่าไม่ตรงกับคำบรรยาย บริษัทฯ ยินดีที่จะรับคืนสินค้า (ตามเงื่อนไขการเปลี่ยน คืนสินค้า) เช่นเดียวกัน บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะแสดงรูปภาพสินค้าที่มีสีที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง แต่สีที่แสดงบนหน้าจอของท่านอาจผิดเพี้ยนได้ตามการตั้งค่าของหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันไป

  1. การป้องกันการฉ้อโกง
    บริษัทฯ มีกระบวนการตรวจสอบการฉ้อโกงหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือระงับคำสั่งซื้อ หากตรวจพบบัญชีที่มีประวัติการฉ้อโกง และฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทฯ อาจติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้ท่านยืนยันคำสั่งซื้อได้ บริษัทฯ อาจยกเลิกบัญชีของผู้ใช้บริการ หากตรวจพบการฉ้อโกงหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯ บังคับใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการของเรา รวมทั้งบริษัทฯ เองจากการถูกต้มตุ๋น หลอกลวง หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  2. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
    บริษัทฯ ยินดีรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากท่านเกี่ยวกับเว็บไซต์ สินค้าและบริการของบริษัทฯโดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่ถือเป็นความลับ และอาจถูกนำไปใช้ ดัดแปลง ทำซ้ำ และเผยแพร่ได้เพื่อจุดประสงค์ใดๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่เชื่อมโยงชื่อนามสกุลของท่านกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของท่าน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อนเว้นแต่ในกรณีที่เป็นการขัดต่อข้อกฎหมายเท่านั้น

นโยบายการจัดส่ง

บริษัทฯ ยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 14 วันหลังจากการสั่งซื้อ ตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ทางบริษัทฯจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าผิดจากรายละเอียดจากการยืนยันการสั่งซื้อครั้งล่าสุดจากทางบริษัท ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
  2. ในกรณีที่มีปัญหาจากตัวสินค้าชำรุดเสียหายเนื่องจากการผลิต หรือสินค้าเกิดความเสียหายเนื่องจากการขนส่งจากทางบริษัท ทางบริษัทฯยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ