หน้าแรก
สินค้า
แชทไลน์

banner

แผ่น ไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ อะไร มี ข้อดี ข้อเสีย ต่างจากไม้จริงอย่างไร

แผ่น ไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ อะไร มี ข้อดี ข้อเสีย ต่างจากไม้จริงอย่างไร

ไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ อะไร พื้นไม้เทียมประเภทนี้เหมาะกับลักษณะงานแบบไหน พื้นไม้เทียม นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในโลกของวัสดุก่อสร้างและการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ  ด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาทางเลือกใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงพื้นไม้เทียมให้ดีขึ้นสำหรับวัสดุแบบดั้งเดิม หนึ่งในวัสดุที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือไฟเบอร์ซีเมนต์ ด้วยองค์ประกอบและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟเบอร์ซีเมนต์ได้กลายเป็นวัสดุทดแทนไม้ที่เชื่อถือได้และหลากหลายในการใช้งานที่หลากหลาย บทความนี้เราจะมาสำรวจแนวคิดของไฟเบอร์ซีเมนต์ในฐานะวัสดุทดแทนไม้ โดยเน้นองค์ประกอบ ประโยชน์ การใช้งาน ความพร้อมในท้องตลาด และคำแนะนำในการติดตั้งกันครับ

ไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ อะไร ?

ไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นวัสดุผสมที่ประกอบด้วยซีเมนต์ เส้นใยเซลลูโลส และสารเติมแต่งอื่น ๆ โดยได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้มีพื้นผิวและรูปลักษณ์เหมือนไม้จริง ๆ และในขณะเดียวกันก็เพิ่มความทนทานและทนทานต่อสภาพอากาศ วัสดุอเนกประสงค์นี้สามารถพบการใช้งานในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัสดุที่ทำจากไม้แบบดั้งเดิมครับ

ส่วนประกอบของไฟเบอร์ซีเมนต์ มีอะไรบ้าง

ซีเมนต์ไฟเบอร์ผลิตขึ้นโดยการผสมซีเมนต์ ทราย น้ำ และเส้นใยเซลลูโลสที่ได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น กระดาษรีไซเคิลหรือเยื่อไม้ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ถูกผสมอย่างระมัดระวังเพื่อสร้างส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจึงบ่มภายใต้สภาวะควบคุมเพื่อให้ได้ความแข็งแรงและความทนทานตามที่ต้องการ โดยเส้นใยเซลลูโลสช่วยให้วัสดุมีความแข็งแรงและเสถียรภาพ ในขณะที่ซีเมนต์ให้ความแข็งแกร่งและทนทานต่อสภาพอากาศนั่นเองครับ

ข้อดี ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์

ไฟเบอร์ซีเมนต์ให้ประโยชน์ที่โดดเด่นหลายประการที่เด่นกว่าวัสดุไม้แบบดั้งเดิม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้สร้างและเจ้าของบ้านจำนวนมาก

ความทนทาน : ไฟเบอร์ซีเมนต์มีความทนทานสูงและทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง ทั้งลมแรง ฝน และความผันผวนของอุณหภูมิได้อย่างดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงของการขยายตัว การหดตัว การบิดเบี้ยว หรือไม่ซีดจาง รวมถึงรังสียูวี ทนต่อการเน่าเปื่อย การบิดงอ และปลวก ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าไม้อีกด้วย มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความสวยงามที่สม่ำเสมอ

ทนไฟ : ไฟเบอร์ซีเมนต์มีคุณสมบัติทนไฟ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อเทียบกับไม้ และไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเปลวไฟ จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่าหรืออันตรายจากไฟและนำไปสู่ความปลอดภัยโดยรวมของโครงสร้าง

ค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ : ไม่เหมือนไม้จริง ไฟเบอร์ซีเมนต์ต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่ามาก และไม่จำเป็นต้องทาสีหรือซีลเป็นประจำ ทำให้ช่วยลดต้นทุนและความพยายามในการบำรุงรักษาในระยะยาว การทำความสะอาดและการตรวจสอบตามระยะมักจะเพียงพอที่จะรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม

ลวดลายที่เหมือนไม้จริง ๆ : ไฟเบอร์ซีเมนต์สามารถผลิตให้มีลักษณะพื้นผิว ลายไม้ และพื้นผิวต่างๆ ของไม้ ทำให้สามารถออกแบบได้หลากหลาย สามารถลงสีได้หลากหลายสีตามความชอบและสไตล์สถาปัตยกรรมของแต่ละคน

ความคุ้มค่า : แม้ว่าไฟเบอร์ซีเมนต์อาจมีต้นทุนที่สูงกว่าไม้ แต่ความต้องการในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าและอายุการใช้งานที่ยาวนานทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ลดลง เช่น การทาสีหรือการซีล อาจส่งผลให้ประหยัดได้มากเมื่อเวลาผ่านไป

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ไฟเบอร์ซีเมนต์ใช้วัสดุรีไซเคิลและต้องการการตัดต้นไม้น้อยลง ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีรอยเท้าคาร์บอนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุที่ทำจากไม้แบบดั้งเดิม

ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์กับไม้จริงแตกต่างกันอย่างไร

ไฟเบอร์ซีเมนต์ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะและพื้นผิวใกล้เคียงกับไม้ธรรมชาติ องค์ประกอบของมันช่วยให้สามารถจำลองรูปแบบลายไม้ได้ และทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผิวสัมผัสที่ดึงดูดสายตาซึ่งให้อารมณ์ของความอบอุ่นและความถูกต้องของเนื้อไม้ ความคล้ายคลึงกันนี้ทำให้ไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามตามธรรมชาติของไม้โดยไม่มีข้อด้อยแม้แต่น้อยเลยครับ

เทรนด์การรักษ์โลกที่ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น

การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้ไม้ต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศป่าไม้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ควบคุมสภาพอากาศ และรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การใช้วัสดุทดแทนไม้สามารถช่วยลดความต้องการไม้และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยวไม้ได้ครับ

ความทนทาน อายุการใช้งาน และการบำรุงรักษาที่ง่ายกว่า

ไม้มีความอ่อนไหวเป็นอย่างมากต่อการผุพัง เน่า แมลงศัตรูพืช และสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น การทาสี การซีล และการตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจถึงอายุการใช้งานและประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เจ้าของบ้านหรือผู้สร้างทุกคนที่มีเวลา ทรัพยากร หรือมีความเชี่ยวชาญในการบำรุงรักษาโครงสร้างไม้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้นำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับวัสดุที่มีความสวยงามและประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกันโดยต้องการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า

พื้นไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์ได้กลายเป็นวัสดุทดแทนไม้ที่แทบจะไม่มีความแตกต่างจากไม้จริง และเป็นนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ความทนทาน ต้องการบำรุงรักษาต่ำ และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม้เทียมชนิดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาความสวยงามแต่ต้องการรักษ์โลกอีกด้วย ไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยการเลือกใช้ไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์คุณภาพสูงและปฏิบัติตามคู่มือการติดตั้งและบำรุงรักษาที่เหมาะสม ผู้สร้างและเจ้าของบ้านจะได้รับประโยชน์จากวัสดุที่โดดเด่นนี้ไปอีกหลายปีเลยล่ะครับ

ระแนงไม้เทียม นำมา ตกแต่งบ้าน อย่างไร

ระแนงไม้เทียม สําเร็จรูป สามารถนำมา ตกแต่งบ้าน ได้อย่างไร

ระแนงไม้เทียม สําเร็จรูป ได้รับความนิยมมากขึ้นในการเป็นตัวเลือกและมีสไตล์ที่เฉพาะตัวสำหรับการตกแต่งบ้าน ด้วยความงามตามธรรมชาติและความดึงดูดเหนือกาลเวลา องค์ประกอบตกแต่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้าน ให้กลายเป็นสถานที่ที่อบอุ่นและเชื้อเชิญ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มบรรยากาศที่มีเสน่ห์แบบชนบทหรือสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและเก๋ไก๋ก็ตาม ระแนงไม้ให้ความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ

ระแนงไม้นำความสวยงามที่มีเอกลักษณ์และน่าหลงใหลมาสู่การออกแบบตกแต่งภายในเป็นอย่างมาก ด้วยความอบอุ่นโดยธรรมชาติและลวดลายที่เป็นธรรมชาติช่วยเพิ่มความลึกและเอกลักษณ์ให้กับห้อง ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์ชนบท สแกนดิเนเวีย หรือร่วมสมัยก็ตาม แผ่นระแนงไม้ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศโดยรวมได้อย่างง่ายดาย ด้วยความหลากหลายนี้เอง ทำให้สามารถใช้งานอย่างสร้างสรรค์ในพื้นที่ต่าง ๆ ในบ้านของคุณ ตั้งแต่ผนังถึงเพดาน พื้น และแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ครับ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจประโยชน์และประโยชน์ต่าง ๆ ของการใช้แทนระแนงไม้ในการตกแต่งบ้านของคุณกันครับ

ระแนงไม้เทียม สําเร็จรูป นำไปตกแต่งส่วนไหนได้บ้าง ?

ข้อดีอย่างหนึ่งของระแนงไม้คือความสามารถรอบด้าน ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกันและสามารถใช้ได้ทั้งในที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ด้วยขนาด พื้นผิว และวิธีการติดตั้งที่หลากหลาย คุณสามารถสร้างสไตล์ที่กำหนดเองซึ่งช่วยเติมเต็มรสนิยมส่วนตัวและการตกแต่งพื้นที่ที่มีอยู่ของคุณ โดยแผ่นไม้สามารถย้อมสีหรือทาสีให้เข้ากับโทนสีใดก็ได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย

ตกแต่งภายในบ้าน

  1. นำมาตกแต่งผนัง การตกแต่งผนังด้วยระแนงไม้สามารถเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นจุดสนใจได้ทันที ด้วยการผสมผสานของแสงและเงาบนระแนงช่วยเพิ่มความลึกและพื้นผิว ทำให้ผนังดูมีเสน่ห์ ไม่ว่าคุณจะเลือกปูผนังทั้งหมดหรือทำให้เป็นแค่กิมมิคที่เอาไว้ตกแต่งห้องเฉย ๆ ก็ตาม ระแนงไม้สามารถเป็นสิ่งตกแต่งห้องที่ดึงดูดตาผู้ที่เดินเข้าห้องมาอย่างแน่นอน
  2. นำมาตกแต่งเพดาน หรือทำเป็นเพดานมันซะเลย เพดานมักถูกมองข้ามเมื่อเป็นเรื่องของการตกแต่งบ้าน แต่ระแนงไม้สามารถเปลี่ยนแปลงความน่าเบื่อได้ การติดตั้งไม้ระแนงบนเพดานช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับห้อง มันสร้างบรรยากาศได้ดีมาก ๆ และทำให้ห้องน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ขนาดใหญ่ เพดานระแนงไม้ทำงานได้ดีเป็นพิเศษในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่รับประทานอาหาร โดยสามารถใช้ร่วมกับแสงที่เหมาะสมเพื่อสร้างบรรยากาศสบาย ๆ และช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
  3. นำมาตกแต่งพื้นก็ได้นะ ระแนงไม้สามารถใช้เป็นทางเลือกแทนพื้นไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม เพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ สามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ เช่น ก้างปลาหรือบั้ง เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร พื้นระแนงไม้จะช่วยสร้างบรรยากาศความอบอุ่นและด้วยความสบายของไม้ธรรมชาติ และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้บ้านของคุณได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

ตกแต่งภายนอกบ้าน

  1. ใช้ตกแต่งเป็นรั้วบ้านและเป็นผนังที่เอาไว้บังตัวบ้านจากภายนอก ระแนงไม้สามารถใช้เพื่อสร้างรั้วที่ดึงดูดสายตาและเป็นฉากกั้น ซึ่งจะให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับพื้นที่กลางแจ้งของคุณ การเว้นระแนงไม้ระแนงเป็นช่วง ๆ ทำให้คุณได้รับความเป็นส่วนตัวในระดับที่ต้องการโดยที่ยังให้อากาศถ่ายเท และในขณะเดียวกันแสงธรรมชาติก็สามารถส่องผ่านได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้รั้วไม้ระแนงแบบดั้งเดิมหรือแบบระแนงไม้เทียม ระแนงไม้จะมอบขอบเขตที่เป็นธรรมชาติและสวยงามให้กับทรัพย์สินของคุณ
  2. การใช้เป็นดาดฟ้าและเป็นหลังคาสำหรับปลูกไม้เลื้อย การใช้ระแนงไม้เป็นดาดฟ้าหรือร้านปลูกไม้เลื้อยสามารถยกระดับการออกแบบได้ดีเลย โดยรวมและบรรยากาศของพื้นที่กลางแจ้งของคุณได้ทันที มันสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างประทับใจให้กับแขกหรือผู้ที่ต้องการความเพลิดเพลินกับยามเย็นที่เงียบสงบกลางแจ้ง ระแนงไม้ยังสามารถให้ร่มเงาและป้องกันแสงแดด ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งอีกด้วย
  3. ใช้เป็นสิ่งของตกแต่งสวน ระแนงไม้สามารถใช้อย่างสร้างสรรค์ในสวนของคุณเพื่อกำหนดทางเดิน สร้างแปลงดอกไม้ หรือสร้างโครงสร้างตกแต่ง เช่น เป็นระแนงเพื่อบังตาหรือทำเป็นซุ้มไม้ ซึ่งพวกมันสามารถกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบได้อย่างแนบเนียน และทำให้สวนของคุณมีเสน่ห์และมีเสน่ห์แบบชนบท แผ่นไม้ยังสามารถย้อมสีหรือทาสีเพื่อเพิ่มสีสันให้กับต้นไม้ของคุณได้อีกด้วย ทำให้สวนของคุณสวยงามไปอีกระดับเลยแหละ

วิธีติดตั้ง ระแนงไม้เทียม ?

ขั้นตอนการเตรียมก่อนที่จะติดตั้ง

วัดพื้นที่ที่จะติดตั้งระแนงและคำนวณปริมาณระแนงไม้ที่ต้องการ พิจารณาวัสดุเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น ตะปูหรือกาวที่อาจจำเป็นต้องใชh เตรียมพื้นผิวโดยให้แน่ใจว่าสะอาด เรียบ และปราศจากสิ่งกีดขวางหรือส่วนที่ยื่นออกมา ขัดบริเวณที่มีความหยาบให้เรียบก่อนและทาไพรเมอร์หากจำเป็น กำหนดรูปแบบการติดตั้งและการจัดวาง ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับระยะห่างระหว่างไม้ระแนงและองค์ประกอบอื่น ๆ ในการออกแบบ เช่น ความกว้างสลับกันหรือการจัดวางในแนวทแยง

ขั้นตอนของการติดตั้ง

สำหรับผนัง ให้ยึดไม้ระแนงกับพื้นผิวโดยใช้กาวหรือตะปู ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม้ระแนงแต่ละอันได้ระนาบและอยู่ในแนวเดียวกับไม้ระแนงที่อยู่ติดกันเพื่อให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน

สำหรับการติดตั้งไม้ระแนงบนเพดานหรือพื้น ให้ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น ปืนยิงตะปูลมหรือกาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเฉพาะของวิธีการติดตั้งที่คุณเลือก

ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตสำหรับแผ่นไม้เฉพาะประเภทที่คุณใช้ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งที่ปลอดภัยและเป็นเรียบร้อยดี

การดูแลรักษาระแนงไม้

โดยการปัดฝุ่นระแนงไม้เป็นประจำด้วยผ้านุ่มหรือไม้ปัดฝุ่นด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือเศษผงที่สะสมอยู่ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำให้ผิวไม้เทียมเสียหายได้ ให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนก็เพียงพอแล้ว

การใช้ระแนงไม้ในการตกแต่งบ้านของคุณ จะช่วยเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ในการสร้างพื้นที่ที่อบอุ่น ผ่อนคลาย และดึงดูดสายตา ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เป็นผนัง เป็นฝ้าเพดาน พื้น หรือตกแต่งภายนอก ระแนงไม้เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ ความทนทาน และรูปลักษณ์ที่ไร้กาลเวลา ระแนงไม้จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นสถานที่ที่มีสไตล์และความสะดวกสบาย ดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

ฝ้า เพดาน คือ อะไร มีกี่ประเภท จำเป็นต้องมีไหม

ฝ้า เพดาน คือ อะไร จำเป็นไหมที่บ้านทุกหลังต้องมี ? ย้อนไปดูประวัติของฝ้าเพดานกันก่อน เมื่อพันปีก่อน การออกแบบฝ้าเพดาน (Ceiling Design) เป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ซึ่งการเกิดขึ้นของงานออกแบบตกแต่งฝ้าเพดานยุคแรกๆ ต้องย้อนเวลาไปถึงต้นปี 1300 กันเลยทีเดียว จริงแล้วจุดแรกเริ่มในอดีตอาจไม่สามารถเรียกว่าฝ้าเพดานได้อย่างเต็มปาก แต่มันคือการตกแต่งเพดานให้มีความสวยงามตามความชอบ และการใช้งานของคนในโบราญ จริงๆแล้วมนุษย์รู้จักการออกแบบตกแต่งเพดานมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ แต่เพดานโรมันในยุคแรกๆนั้นเต็มไปด้วยการแกะสลัก และภาพวาดประดับตกแต่งเป็นหลัก และในช่วงยุคกอธิคแนวโน้มการตกแต่งฝ้าเพดานได้หันมาใช้องค์ประกอบที่สัมพันธ์กับโครงสร้างเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ชัดว่าในยุคนี้เพดานจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมากเพื่อรองรับการตกแต่งที่งดงามจากงานปั้น และงานจิตรกรรมที่มีสีสันสดใส จึงมีการวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ โดยเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ยุคสมัยต่างๆ มาอย่างยาวนานกินเวลาหลายร้อยปี จากจุดเริ่มต้นแค่การตกแต่งเพดานธรรมดาก็ได้เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อย ๆ จนถูกพัฒนาให้กลายเป็นระบบฝ้าเพดานในปัจจุบัน

ฝ้า เพดาน คือ อะไร ?

ฝ้า เพดาน คือ อะไร ถ้าพูดกันแบบเข้าใจง่ายๆ เลยนะครับ ฝ้าเพดานเป็นแผ่นวัสดุที่ปิดพื้นที่บริเวณใต้หลังคาและใต้พื้นชั้นบนเพื่อป้องกันความร้อนใต้หลังคาและปิดซ่อนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ท่อน้ำ สายไฟ ป้องกันเสียง และสำหรับฝ้าที่เป็นวัสดุทนไฟก็ยังช่วยป้องกันไฟได้อีกด้วย การบุฝ้าเพดานในอาคารบ้านเรือนจึงมีประโยชน์ทั้งในแง่การใช้สอยและความสวยงาม หรืออธิบายง่ายๆ ถ้าเรามองขึ้นไปแล้วเห็นหลังคาเลย นั่นแปลว่าบ้านไม่มีฝ้าเพดาน ทุกที่มีฝ้าเพดานหมด อย่างที่บอกไป นอกจากจะสามารถปกปิดโครงสร้างที่ไม่น่ามองแล้ว ยังช่วยเรื่องเสียงรบกวนอีกด้วย อย่างเช่นเกิดมีใครเข้าห้องน้ำอยู่ชั้นบน เสียงกดชักโครก เสียงตามท่อที่ดังออกมา ฝ้าเพดานนี่แหละครับจะกันเสียงไม่ให้เสียงกระจายตัวลงมาชั้นล่าง

ฝ้าเพดาน มีกี่ประเภท

  1. ประเภทที่ 1 ฝ้าเพดานฉาบเรียบฝ้าเพดานประเภทนี้ มักใช้ในงานที่ต้องการความเรียบเนียนกลมกลืนไปกับสไตล์การออกแบบ จึงมักเป็นการติดตั้งแบบถาวรเป็นหลัก โดยวัสดุกรุฝ้านั้นจะนิยมใช้วัสดุแผ่นที่ทำจากยิปซัม และไฟเบอร์ซีเมนต์ โดยจะยึดเข้ากับโครงคร่าวที่ติดตั้งไว้กับโครงหลังคาอีกที เช่น โครงคร่าวประเภท C-Line ซึ่งฝ้านี้จะมีการปิดรอยต่อด้วยปูนสำหรับฉาบ เมื่อเสร็จแล้วจึงทาสีทับลงไป ฝ้าประเภทนี้จึงเรียกว่า “ฝ้าฉาบเรียบ”
  2. ประเภทที่ 2 ฝ้าเพดานแขวนหรือฝ้าทีบาร์ฝ้าประเภทนี้มีความนิยมอย่างมาก เนื่องดวก สะดวกและราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ทั้งยังสามารถเปิดฝ้าเพื่อขึ้นไปซ่อมแซมงานระบบต่างๆ บนเพดานได้อีกด้วย ฝ้ามีโครงเหล็กเป็นรูปตัว T และเป็นตารางเท่าๆ กันเพื่อวางแผ่นยิมซัมโดยลวดเข้ากับโครงหลังคา การติดตั้งฝ้านี้เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก ถ้านำไปใช้ในห้องที่มีขนาดใหญ่มากอาจจะเกิดการหย่อนตัวของลวดที่ใช้ยึด
  3. ประเภทที่ 3 ฝ้าเพดานแบบเล่นระดับ หรือ ฝ้าหลุมฝ้าเพดานประเภทนี้ จะเห็นได้ในอาคารเป็นบางแห่ง ฝ้าหลุม เป็นฝ้าที่มีลักษณะเด่นที่สุดด้วยรูปแบบที่สวยงาม ซึ่งมีการเล่นระดับให้ดูมีมิติที่โดดเด่นหรูหรา บางกรณีการออกแบบฝ้าหลุม อาจทำเพื่อให้มีความสอดรับกับการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ซ่อนเครื่องปรับอากาศ ติดตั้งโคมระย้า หรือ พัดลมเพดาน
  4. ประเภทที่ 4 ฝ้าเพดานซ่อนระบบไฟ หรือ ไฟหลืบ ไฟซ่อนฝ้าฝ้าเพดานประเภทนี้ จะมีการเว้นพื้นที่ของฝ้าเพื่อวางแนวไฟส่องสว่างให้ส่องสะท้อนแผ่นฝ้าลงมาสู่พื้นที่ใช้งาน เพื่อให้ได้แสงที่สม่ำเสมอ นุ่มนวล และดูสบายตา โดยส่วนมากมักจะใช้เพื่อสร้างบรรยากาศ และตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงามหรูหราให้กับพื้นที่นั้นๆ
  5. ประเภทที่ 5 ฝ้าดูดซับเสียง หรือ ฝ้าอคูสติกแต่เดิมฝ้าประเภทนี้ เป็นระบบฝ้าเพดานที่ผสมผสานระหว่างโครงเคร่าฝ้าแบบที-บาร์ โดยมีตัวเลือกของแผ่นฝ้า ที่เป็นแผ่นฝ้าประเภทที่สามารถป้องกันเสียงสะท้อนได้ อย่างเช่น Acoustic Board ที่มีพื้นผิวขรุขระ ซึ่งจะช่วยในการดูดซับเสียงไม่ให้สะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนิยมใช้ในห้องประชุมสัมมนา ,ภายในอาคารสำนักงาน หรือ ห้องแสดงมหรสพต่างๆ
  6. ประเภทที่ 6 ฝ้าเพดานโปร่ง หรือ ฝ้าระแนงฝ้าประเภทนี้นิยมใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงาม หรือ เพื่อพรางท่องานระบบต่างๆใต้พื้นอาคาร นอกจากนี้ฝ้าโปร่งแบบระแนงยังช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก และยังซ่อมแซมง่าย ส่วนใหญ่นิยมใช้กับอาคารสาธารณะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม ,ห้างสรรพสินค้า ,อาคารสำนักงาน ,สถานีรถไฟฟ้า ,สถานีขนส่ง
  7. ประเภทที่ 7 ฝ้าเพดานติดตั้งพิเศษ ฝ้าประเภทนี้ เป็นฝ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสวยงาม หรือ ความโดดเด่นแตกต่างให้กับพื้นที่นั้น เรามักจะเห็นตาม ล๊อบบี้โรงแรม หรือ ภายในรีเทลช๊อป เพื่อดึงดูดความสนใจ ลักษณะของฝ้าประเภทนี้จะมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะต่างจากฝ้าทั่วไป และอาจมีการผสมผสานในด้านการใช้วัสดุที่หลากหลายขึ้น เช่น กระจก ,อะคริลิค ,ผ้าใบ ,ผ้าตกแต่ง ,แผ่นอลูมิเนียม ไม้จริง หรือ ไม้เทียม ตกแต่งเป็น ฝ้าระแนง เป็นต้น ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้งมากกว่าฝ้าแบบทั่วไป
  8. ประเภทที่ 8 ฝ้าชายคา หรือ ฝ้าเพดานภายนอกฝ้าเพดานประเภทนี้ เป็นฝ้าที่ใช้ปิดเพดาน และชายคาที่อยู่นอกอาคาร มีจุดประสงค์หลักในการป้องกันสัตว์ต่างๆเข้ามาใต้เพดาน ป้องกันความร้อนจากภายนอก และช่วยระบายอากาศจากใต้หลังคา เราจึงมักเห็นฝ้าที่ออกแบบให้มีร่องระบายอากาศสำหรับใช้ภายนอกตึกสูงหรือนอกอาคารสูงนั่นเอง

ฝ้าเพดานจำเป็นต้องมีไหม

คำตอบ คือ ไม่จำเป็นก็ได้ครับถ้าโครงสร้างของคุณสวย อย่างเช่น เดินท่อน้ำเรียบร้อย เก็บสายไฟสวยงาม หรืออยากจะโชว์สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คุณสามารถไม่ต้องติดตั้งฝ้าก็ได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น งานสไตล์ลอฟท์ งานปูนเปลือย ที่วิศวรจะออกแบบมาเฉพาะเลย แต่ในความเป็นจริง สายไฟเอย ท่อน้ำไม่น่าดู โครงสร้างไม่น่าดู เราจึงไม่อยากจะโชว์อะไรแบบนี้ให้คนผ่านไปผ่านมาเห็น เราจึงต้องมีฝ้าเพดานเพื่อมาปิดสิ่งเหล่านี้เพิ่มความเรียบร้อยสวยงามนั่นเองครับ

ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยล่ะครับว่าฝ้าคืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร การจะติดตั้งฝ้าควรจะเลือกแบบที่เหมาะสมกับอาคารให้ถูกต้อง ที่สำคัญเลยนะครับการเลือกวัสดุการทำฝ้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อทุกครั้ง ไม่มีสิ่งไหนที่ดีที่สุด มีเพียงสิ่งที่เหมาะสมกับงานที่สุด

ไม้ระแนง มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร 3 ปัญหาที่มักพบเจอ

ไม้ระแนง เป็นวัสดุสำหรับการตกแต่งบ้านและอาคาร ด้วยผิวธรรมชาติที่เป็นลายไม้ทอดยาวเป็นเส้นสาย ช่วยทำให้ตัวบ้านดูเรียบง่ายแต่กับโดดเด่น นอกจากนี้ ระแนง ที่เรียงขนาบกันยังช่วยบังแดดที่สาดส่องเข้ามาในตัวอาคารได้อีกด้วย หรือใช้บังตาหลบมุมสายตาจากภายนอกก็ได้เช่นกัน ไม้ระแนงที่ใช้ในงานตกแต่งประเภทนี้มีทั้งที่ใช้ไม้จริงจากธรรมชาติและ ไม้สังเคราะห์ ในปัจจุบัน ระแนงไม้เทียม ได้รับความนิยมแทนไม้ระแนงจริงค่อนข้างมาก ด้วยความเป็นไม้สังเคราะห์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาที่ไม้จริงจากธรรมชาติต้องพบเจอเมื่อใช้มาเป็นเวลานาน ซึ่ง ระแนงไม้เทียม ก็มีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกันหลัก ๆ 2 ประเภท ซึ่ง 2 ประเภทนี้แม้จะมีรูปลักษณ์ที่มีความสวยงามคล้ายไม้ของจริง แต่วัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิตนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้คุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งานแตกต่างกันไป

 

3 ปัญหาที่ ไม้ระแนงจริง มักพบเจอ

  1. ปัญหา ยิ่งสูง ยิ่งซ่อมแพง

คำพูดนี้ไม่เกินเลยนัก โดยเฉพาะกับไม้จริงที่ต้องหมั่นดูแลทุก 2 – 3 ปี หากอยู่ในจุดบริเวณที่สามารถดูแลได้ทั่วถึงคงไม่น่ากังวลมากนัก แต่การติดตั้งระแนงบังแดดหรืองานตกแต่งตัวอาคารมักเน้นติดกับโครงสร้างด้านนอกตามแนวหน้าต่างระเบียงของตัวอาคารเสียเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงคราวที่ต้องบำรุงซ่อมแซมอาจต้องมีค่าใช้จ่ายค่าเครื่องไม้เครื่องมือ ค่าแรงช่างชำนาญการฝีมือโดยเฉพาะ

  1. ปัญหา ไม้ผุพัง

ยิ่งหากเลือกใช้ไม้ระแนงที่ไม่ได้คุณภาพ เกรดแย่ โดยเฉพาะไม้ระแนงที่ทำมาจากไม้เนื้ออ่อนซึ่งมีมวลความหนาแน่นน้อย อาการผุพังอาจมาเร็วกว่าไม้ระแนงที่ทำมาจากไม้เนื้อแข็ง ซึ่งต่างจากไม้ระแนงสังเคราะห์ที่แม้มีผงไม้อัดเป็นส่วนประกอบแต่วัตถุดิบที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมอีกชนิด ทำให้ไม้ระแนงทนทาน ไม่ผุพัง หรือปลวกไม่กินได้

  1. ปัญหา ไม้บวม

ไม้ระแนงที่ทำมาจากไม้ธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะใช้ติดตั้งภายนอก หากต้องเจอกับสภาพอากาศ ทั้ง ฝน ตก แดด ออกเป็นแรม ๆ ปี อย่างไรก็ต้องมีอาการทรุดลงบ้าง ไม่สีซีดจาง ก็อาจบวมน้ำ ระยะเวลาที่ต้องซ่อมแซมหรือดูแลรักษาจะมาค่อนข้างไวกว่าระแนงไม้เทียม

ไม้ระแนง สังเคราะห์ มีกี่ประเภท ผลิตจากอะไร แตกต่างอย่างไร

ไม้ระแนงที่เป็นไม้สังเคราะห์ใช้ทดแทนไม้ระแนงจริง มี 2 ประเภทด้วยกัน ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการผลิตหลักจะเป็นไม้ เพื่อให้ได้ texture รายละเอียดวัสดุที่ใกล้เคียงกับไม้จริงที่สุด ส่วนของวัสดุจะแตกต่างกันเพื่อให้ได้คุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน

  1. ไม้ระแนงเทียม ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Wood Fiber Cement)

ผลิตจาก ปูน, ทราย, เกล็ดไม้, ชิ้นไม้, ผงไม้ และเส้นใยไม้ ไม้ระแนงประเภทนี้จะมีราคาที่ถูก หาซื้อได้ง่าย สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดี ทนทั้งแดดและฝน ไม่หดตัว ไม่บิดงอ ทำสีเพิ่มเติมได้ ปลวกไม่กิน แต่จะไม่เหมาะกับงานโครงสร้างเท่าไม้ระแนง WPC

ไม้ระแนง สีสักทอง ประกายเงาพลัส SCG 3 นิ้ว ลายไม้ กันเชื้อรา แบคทีเรีย

  1. ไม้ระแนงเทียม พลาสติกคอมโพสิต (Wood Plastic Composite)

ผลิตจาก ผงไม้และพลาสติก น้ำหนักเบา ไม่ลามไฟ แข็งแรง ทนทาน มีความเหนียว ใช้กับงานโครงสร้างได้ดีกว่าประเภท WFC คุณสมบัติในการทนความชื้นขึ้นอยู่กับวัสดุหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิตนั้น สัดส่วนวัสดุเป็นผงไม้หรือพลาสติกมากกว่ากัน สีเดียวกันทั้งไม้หากเกิดรอยถลอกไม่ต้องใช้สีแต้มเหมือน ระแนง WFC

Back to Top

นโยบายการคืนเงิน

เงื่อนไขการคืนเงิน

  1. กรณีลูกค้าเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต

1.1 หากมีการยกเลิกรายการก่อนทำการบรรจุสินค้าลงกล่อง ทางบริษัทฯ จะทำการคืนวงเงินกลับไปยังบัญชีบัตรเครดิตภายในวันทำการถัดไป

1.2 กรณีที่มีการคืนสินค้าหลังได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงคืนวงเงินไปยังบัญชีบัตรเครดิต หรือ Paypal ของลูกค้าภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

  1. กรณีลูกค้าชำระด้วยวิธีการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 1

2.1 สำหรับรายการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

2.2 สำหรับรายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

เงื่อนไขการรับประกัน

บริษัทฯ รับประกันสินค้าเป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้า และมีเงื่อนไขและข้อกำหนดดังนี้

  1. ภายใต้ระยะเวลาของการรับประกัน บริษัทฯ อาจทำการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ
  2. หลังจากซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า การนับระยะเวลารับประกันจะเริ่มนับต่อเนื่องจากที่เหลืออยู่
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของบริษัทฯ
  4. สินค้าที่ส่งเคลม จำเป็นต้องทิ้งไว้เพื่อตรวจสอบความบกพร่องหรืออาการเบื้องต้นก่อน
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าที่เสียหายที่อยู่นอกข่ายการรับประกัน หรือ สินค้าที่หมดประกันแล้ว

การรับประกันที่ถือเป็นโมฆะตามเงื่อนไข

  1. สินค้าไม่มี void รับประกันของบริษัทฯ หรือไม่มีหมายเลขเครื่องสินค้า (S/N) หรือสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯหรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นสินค้าของบริษัทฯ
  2. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากการดัดแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซม โดยบุคคลที่ไม่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ การแกะ/ชำแหละ/ดัดแปลงแปลงแก้ไขโดยผู้ใช้
  3. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ น้ำ อาหาร ความชื้น อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป
  4. สินค้าที่เสียหายจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การติดตั้งผิดพลาด การตกกระแทกแตกหักเสียหาย สัตว์เลี้ยงกัดแทะ ฯลฯ มีผลให้สินค้าเสียหาย เป็นต้น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ จะพยายามอธิบายผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำบรรยายผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์จะปราศจากข้อผิดพลาดทั้งมวล ดังนั้นหากท่านไม่พอใจในสินค้า หรือเห็นว่าไม่ตรงกับคำบรรยาย บริษัทฯ ยินดีที่จะรับคืนสินค้า (ตามเงื่อนไขการเปลี่ยน คืนสินค้า) เช่นเดียวกัน บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะแสดงรูปภาพสินค้าที่มีสีที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง แต่สีที่แสดงบนหน้าจอของท่านอาจผิดเพี้ยนได้ตามการตั้งค่าของหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันไป

  1. การป้องกันการฉ้อโกง
    บริษัทฯ มีกระบวนการตรวจสอบการฉ้อโกงหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือระงับคำสั่งซื้อ หากตรวจพบบัญชีที่มีประวัติการฉ้อโกง และฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทฯ อาจติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้ท่านยืนยันคำสั่งซื้อได้ บริษัทฯ อาจยกเลิกบัญชีของผู้ใช้บริการ หากตรวจพบการฉ้อโกงหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯ บังคับใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการของเรา รวมทั้งบริษัทฯ เองจากการถูกต้มตุ๋น หลอกลวง หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  2. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
    บริษัทฯ ยินดีรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากท่านเกี่ยวกับเว็บไซต์ สินค้าและบริการของบริษัทฯโดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่ถือเป็นความลับ และอาจถูกนำไปใช้ ดัดแปลง ทำซ้ำ และเผยแพร่ได้เพื่อจุดประสงค์ใดๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่เชื่อมโยงชื่อนามสกุลของท่านกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของท่าน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อนเว้นแต่ในกรณีที่เป็นการขัดต่อข้อกฎหมายเท่านั้น

นโยบายการจัดส่ง

บริษัทฯ ยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 14 วันหลังจากการสั่งซื้อ ตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ทางบริษัทฯจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าผิดจากรายละเอียดจากการยืนยันการสั่งซื้อครั้งล่าสุดจากทางบริษัท ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
  2. ในกรณีที่มีปัญหาจากตัวสินค้าชำรุดเสียหายเนื่องจากการผลิต หรือสินค้าเกิดความเสียหายเนื่องจากการขนส่งจากทางบริษัท ทางบริษัทฯยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ