หน้าแรก
สินค้า
แชทไลน์

banner

กระเบื้องยาง ข้อเสีย ข้อดี มีอะไรบ้าง ? มีกี่ประเภท ให้เลือกใช้งาน?

กระเบื้องยาง ข้อเสีย ข้อดี คือ อะไร ? ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับกระเบื้องยางกันก่อน ซึ่งกระเบื้องยาง คือ วัสดุปูพื้นอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ผลิตจากโพลิเมอร์ อย่างโพลียูรีเทนและพีวีซี มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง รองรับแรงกระแทกหรือแรงกดทับได้ดีเยี่ยม การมีชั้นผิวปกป้องสูงถึง 5 ชั้น โดยเฉพาะผิวหน้ากระเบื้องชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วนช่วยรักษาลวดลายให้ยังคงสวยงามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีนาโนซิลเวอร์ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อรา ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และยังเป็นวัสดุปูพื้นชนิดไม่ลามไฟอีกด้วย ส่วนใหญ่กระเบื้องยางได้รับความนิยมในการนำไปปู พื้นบ้าน คอนโด ร้านอาหาร อาคาร จะนิยมใช้เป็นกระเบื้องยางแบบแผ่น ต่างจากกระเบื้องยางแบบม้วนที่จะนิยมไปปู อาคาร สำนักงาน โรงเรียน โรงพยาบาล โรงยิม หรือบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง ๆ แทน หรือต้องการปูพื้นที่มีรอยต่อกระเบื้องน้อย ๆ

 

ส่วนประกอบของ กระเบื้องยาง คือ อะไรบ้าง ?

กระเบื้องยางจะมี wear layer หรือ ชั้นผิวอยู่ 5 ชั้นด้วยกันเป็นส่วนประกอบหลัก ทั้งคงรูปและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับกระเบื้องยาง ชั้นผิวทั้ง 5 ชั้นต่างก็ทำหน้าที่แตกต่างกัน มาดูพร้อมกันเลยว่าแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไรบ้าง

UV Coating : ชั้นแรกหรือชั้นนอกสุด ชั้นนี้เป็นชั้นผิวที่เราสัมผัสโดนเป็นชั้นที่ต้องโดนทั้งแดด ดั้งนั้นจึงต้องมีการเคลือบ สารยูวี เพื่อเพิ่มความคงทนของผิวพื้นนั่นเอง
Wear Layer : เป็นชั้นเดียวกับชั้นแรก ซึ่งมักจะโดนรอยขีดข่วนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการวางพื้นโต๊ะ การลากโต๊ะเป็นต้น ดั้งนั้นจึงมีชั้นนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นกระเบื้องไวนิลของเราสึกนั่นเอง
Print Color Sheet  : เป็นชั้นในส่วนของสีหรือลวดลายต่างๆ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าต้องการลายไหนทางโรงงานก็จะผลิตออกมา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีแบบมาให้เลือก ไม่สามารถออกแบบลายเองได้
Balance Laye : ชั้นที่สี่ ถือว่าได้ว่าเป็นชั้นที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากใช้วัสดุไม่ดีก็จะได้ให้เสียหายได้ง่าย แต่สำหรับสินค้าของเราผลิตจาก วัสดุอย่างดี นั่นก็คือ พีวีซีบริสุทธิ์ ที่ทำให้ กระเบืองของเราไม่หด ไม่ขยายตัว และทนต่อการแตกง่ายนั่นเอง
Base Layer : ชั้นสุดท้ายเป็นชั้นที่เกาะติดยึดกับพื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้หยึดติดกับพื้นได้เป็นอย่างดี ระหว่างกาว กับพื้นผิวบ้านก่อนติดตั้งนั่นเอง

กระเบื้องยาง มีกี่ประเภท

ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการพัฒนาจากฝั่งผู้ผลิต เพื่อให้กระเบื้องยางเป็นวัสดุทดแทน ไม้ หิน และวัสดุปูพื้นประเภทอื่น ๆ โดยตั้งใจพัฒนาให้มีความสมจริงทั้งตัวลวดลายและผิวสัมผัส แก้ไขปัญหาที่วัสดุจริงไม่สามารถตอบโจทย์ใช้งานของผู้บริโภคได้ ทำให้ทุกวันนี้กระเบื้องยางมีด้วยกันหลากหลายประเภท ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่จะเรียกตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต ตามการใช้งาน และตามลวดลายของกระเบื้องยาง

แบ่งตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต

  1. กระเบื้องไวนิล LVT (Luxury Vinyl Tile) กระเบื้องยางที่ผลิตจากพลาสติก 100 % มี Wear layer ชั้นบนหนาประมาณ 0.12-0.7 มม. ผิวสัมผัสกระเบื้องอ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง เดินสบายเท้า ยืดหยุ่นสูง ทำให้กระเบื้อง LVT รับน้ำหนักได้ดี
  2. กระเบื้องไวนิล SPC (Stone Plastic Composite) เป็นกระเบื้องที่มีส่วนผสมของหินและพลาสติก ทำให้กระเบื้องประเภทนี้ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ผิวหน้ากระเบื้องเป็นรอยยาก ด้วย Wear layer ที่หนาถึง 0.3-0.55 มม. เป็นกระเบื้องยางที่ใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นได้ดีที่สุด

แบ่งตามการใช้งาน

  1. กระเบื้องยาง ปูกาว ยังจำแนกได้อีก 2 ประเภท คือประเภทที่มีกาวในตัวมาพร้อมตัวกระเบื้องยาง ติดตั้งคล้ายสติ๊กเกอร์ลอกฟิล์มออกนำไปแปะลงบนพื้นหรือผนังได้เลย ส่วนอีกประเภทคือ แบบกาวแยก หากเลือกใช้กาวที่ดีมีประสิทธิภาพในการติดตั้ง การยึดเกาะของเนื้อกาวและกระเบื้องยางก็จะสูงตามไปด้วย การติดตั้งกระเบื้องยางปูกาวส่วนใหญ่จะปูจากด้านในออกมาด้านนอก โดยเว้นระยะขอบผนังเผื่อการยืดหดของกระเบื้อง ซึ่งสามารถใช้บัวปิดขอบผนังเก็บรายละเอียดให้สวยงามได้
  2. กระเบื้องยาง คลิกล็อค คือ กระเบื้องยางที่ติดตั้งด้วยระบบลิ้นล็อค ไม่ต้องใช้กาวในการติดตั้ง หมดปัญหาเรื่องการถูกน้ำหรือสารเคมีไม่ทำให้เนื้อกาวลดประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่จะปูด้วยโฟมรองพื้นก่อนปูทับกระเบื้องยางคลิกล็อคอีกที เพื่อเป็นการป้องกันเสียงกระเบื้องกระทบพื้น กระเบื้องยางคลิกล็อคจะเริ่มต้นตั้งแต่ความหนา 4 มิลขึ้นไป
  3. กระเบื้องยางม้วน หรือ กระเบื้องยางที่ต้องใช้ลวดเชื่อมในการติดตั้ง เป็นกระเบื้องยางที่จำหน่ายเป็นม้วน 1 ม้วนปูได้ 12 ตารางเมตรขึ้นไป จุดเด่นของกระเบื้องยางประเภทนี้คือรอยต่อกระเบื้องจะน้อยกว่ากระเบื้องแผ่นทั่วไป ซึ่งรอยต่อกระเบื้องเป็นจุดที่ฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าไปสะสม เป็นจุดที่ยากต่อการทำความสะอาด เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหากระเบื้องกระเดิด

แบ่งตามลวดลาย

  1. กระเบื้องยาง ลายไม้ เป็นกระเบื้องที่มีลวดลายคล้ายไม้ธรรมชาติทั้งรูปลักษณ์และผิวสัมผัส ซึ่งสามารถเลือกผิวสัมผัสที่นูนหยาบเหมือนไม้จริงหรือจะเลือกเหมือนแค่เพียงรูปลักษณ์แต่มีผิวเรียบแทนก็ได้ มีความหนาตั้งแต่ 2 – 5.5 มิล
  2. กระเบื้องยาง ลายหินขัด หินอ่อน หินปูน ล้วนแล้วแต่ถูกสรรค์สร้างให้ใช้งานแทนหินจริงจากธรรมชาติทั้งสิ้น โดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบากว่าหินจริง ทำให้ไม่หนักโครงสร้าง แตกหักยาก และราคาที่ถูกกว่ากันหลายเท่าเลยทีเดียว มีความหนาให้เลือกตั้งแต่ 2 – 5.5 มิล
  3. กระเบื้องยาง ลายพรม เป็นกระเบื้องที่ทดแทนพรมถัก พรมทอ พรมอัดเรียบ ได้แบบหมดจด แก้ไขปัญหาเรื่องเนื้อพรมขาด ฉีก หรือหลุ่ดลุ่ยได้ง่าย กระเบื้องยางลายพรมสามารถใช้น้ำและน้ำยาทำความสะอาดเช็ดถูคราบสกปรกได้เหมือนกระเบื้องปูพื้นทั่วไป ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าหนักสำหรับคนใช้พรมจริงปูพื้น มีความหนาให้เลือกเพียง 2 – 4 มิล
  4. กระเบื้องยางสีพื้น เป็นอีกหนึ่งประเภทของกระเบื้องยาง แต่แตกต่างแค่ตัวลวดลายที่เน้นเป็นสีพื้นเรียบหรือสีพื้นโรยลายเท่านั้น ขนาดความหนาเริ่มต้น 1.6 ถึง 3.2 มิล กระเบื้องยางสีพื้นจะมีแต่แบบทากาวเท่านั้น

กระเบื้องยาง ข้อเสีย ข้อดี คือ ?

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ไม่ว่าอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น วัสดุปูพื้นอย่าง กระเบื้องยาง ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่า กระเบื้องยางจะมีคุณสมบัติที่ดีจนหลายคนนิยมนำมาใช้ปูพื้นบ้าน แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่เช่นกัน

ข้อดี

  • ทนต่อรอยขีดข่วน นี่ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้กระเบื้องยางลายไม้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไม่ต้องมานั่งกังวลว่าพื้นไม้ที่แสนหวงนั้นจะเป็นรอยเมื่อไหร่ ซึ่งนอกจากจะทนต่อรอยขีดข่วนแล้วยังมีพื้นผิวที่เรียบนุ่มสบายเท้าอีกด้วย
  • ลายไม้สวยคมชัด ดูเหมือนจริง กระเบื้องยางลายไม้ถูกผลิตมาเพื่อให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด จนบางครั้งก็แยกไม่ออกว่าเป็นไม้จริงหรือกระเบื้องยางกันแน่
  • มีความยืดหยุ่นสูง ด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้ กระเบื้องยาง ไม่แตกหักง่าย ใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่าเม็ดเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน ในขณะที่เรื่องของการซ่อมแซมก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยแทบไม่ต้องง้อช่างเลยทีเดียว
  • เก็บเสียงได้ดี ปกติพื้นไม้เมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งจะเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดสร้างความรำคาญใจให้แก่เจ้าของ แต่สำหรับกระเบื้องยางลายไม้หมดปัญหาดังกล่าวไปได้เลย เนื่องจากมีคุณสมบัติเก็บเสียงได้ค่อนข้างดี จึงเหมาะเป็นตัวเลือกที่จะนำมาปูพื้นบ้านมาก
  • ทนไฟได้ดี และไม่ลามไฟ จึงช่วยลดความกังวลได้ไม่น้อย รวมถึงหากเกิดติดไฟขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
  • สามารถซ่อมแซมได้ง่าย และไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้า

ข้อเสีย

  • กระเบื้องยางลายไม้เมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดการหดตัวจนทำให้เห็นขอบกระเบื้องเป็นร่อง ซึ่งจะทำให้พื้นดูไม่สวยงามนั่นเอง
  • ขนาดของกระเบื้องอาจไม่เท่ากัน ซึ่งมักจะพบใน กระเบื้องยางลายไม้ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ ซึ่งทำให้มีปัญหาในการติดตั้งบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมายสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายๆ ด้วยเลือกซื้อ กระเบื้องยางลายไม้ที่มีคุณภาพสูง และตรวจสภาพของกระเบื้องให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
  • กรณีที่ต้องติดตั้งในพื้นที่ที่ราบหรือมีความสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาหลังการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่จะพ่วงกับการปรับพื้น สกริมผิวหน้าเดิมให้เรียบ ถ้าพื้นเดิมผิวค่อนข้างแย่ อาจต้องเซลฟ์พื้นหรือปรับระดับพื้น
  • กระเบื้องยางไม่ทนทานต่อน้ำและสารเคมี ดังนั้นการใช้งานภายในห้องน้ำ ภายนอกอาคาร หรือ ระเบียงที่โดนน้ำหรือฝนสาดเป็นประจำ อายุการใช้งานจะน้อยลงกว่าปกติ

กระเบื้องยาง ปูภายนอก ได้ไหม

กระเบื้องยาง ปูภายนอก ได้ไหม ? ควรเลือกใช้กระเบื้องแบบไหนดี ? ลูกค้าหลายท่านบอกมาว่า “อยากจะปูกระเบื้องยางภายนอก” แต่ก็เป็นกังวลเรื่องอายุการใช้งานที่จะตามมา อาจจะเคยได้ยินคำว่า กระเบื้องยางไม่ทนแดด กระเบื้องยางไม่ทนน้ำ ไม่ทนต่อสภาพอากาศ หากติดตั้งไปก็จะเกิดการหดตัวของกาวบ้าง อะไรบ้าง กระเบื้องยางจึงถูกออกแบบมาหลายลักษณะ อย่างเช่น แบบทากาว แบบมีกาวในตัว หรือ แบบคลิกล็อค แต่ละแบบมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน บางอันเหมาะสมในงานแบบนี้ บางอันเหมาะกับแบบนี้ จึงมีการถกเถียงถึงปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งในงานของกระเบื้องยาง

 

กระเบื้องยาง ปูภายนอก ได้ไหม ?

ส่วนการที่จะใช้กระเบื้องยางในการปูภายนอก จะสามารถปูได้ไหม ? คำตอบบคือไม่สามารถปูได้ เพราะกระเบื้องยางส่วนผสมหลักเป็น พลาสติก PVC จะมีความอ่อนโยนมากไม่เหมาะกับการปูภายนอก ยิ่งหน้าฝนหากโดนฝนสาด ฝนกระเซนเป็นประจำ จะทำให้กระเบื้องยางหดตัวไวกว่าปกติ ยิ่งเป็นกระเบื้องยางแบบทากาวเนื้อกาวจะหลุดร่อนเร็ว ประสิทธิภาพในการยึดติดพื้นกับกระเบื้องยางจะลดลงไว เวลาที่กระเบื้องยางตากแดดเป็นเวลานานด้วยความที่เป็นพลาสติกจะกรอบและแห้งกรานไว อายุการใช้งานจะน้อยกว่าปูภายใน

แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้งาน กระเบื้องยาง ภายนอก หรือ ในห้องน้ำ จริง ๆ แนะนำ กระเบื้องยางแบบคลิกล็อค ที่เป็น พื้น SPC แทนด้วยคุณสมบัติที่มีส่วนผสมของหินอยู่ในตัว เวลาที่โดนน้ำ โดนฝน อัตราการซึมผ่านผิวกระเบื้ออง SPC จะน้อยกว่ากระเบื้องยางทั่วไป การติดตั้งก็ใช้ระบบคลิ๊กล็อคแทนการทากาว ดังนั้นไม่มีผลกับการร่อนหรือหลุดลอก แต่แน่นอนว่าพื้น SPC ก็มีส่วนผสมของพลาสติกด้วยเช่นกัน ดังนั้น อายุใช้งานก็จะน้อยกว่าการใช้งานภายในบ้านแน่นอน

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบ “รักในการตกแต่งบ้าน รักในความเป็นงานไม้” อยากจะปูพื้นภายนอกบ้าง แต่ก็กลัวว่าจะไม่ทนต่อสภาพอากาศ แอดมิน แนะนำให้ใช้เป็น กระเบื้องประเภทอื่น หรือ ไม้เทียมปูพื้น ฯลฯ แทน เพราะมีคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานภายนอกได้ดีกว่า ยิ่งคุณสมบัติที่ทนกับสภาพอากาศยิ่งเหมาะสมกับงานมากกว่า

 

6 วัสดุปูพื้นภายนอก ที่นิยมใช้งาน

เพื่อให้เห็นถึงคุณสมบัติการใช้งานจริง ๆ ทางเราจึงได้จัดทำการทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ทั้งการทดลองใช้ไฟแช็คจุดเผาผนังสำเร็จรูปเพื่อทดสอบการติดไฟและการลามไฟจะเป็นจริงอย่างที่แอดมินได้กล่าวไว้หรือเปล่า นอกจากนี้ยังมีการทดลองทดสอบความแข็งแรงคงทนของตัวผนังและการทำความสะอาดเช็ดถูคราบสกปรกที่ฝังลึกเช่นกัน เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นถึงคุณสมบัติผนัง MC’s Wall เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับติดตั้ง ผนังตกแต่งบ้าน

  1. พื้นไม้เทียม เป็นวัสดุปูพื้นที่ทดแทการใช้งานไม้จริง ๆ ด้วยรูปลักษณ์ ลวดลาย และผิวสัมผัสที่เสมือนไม้จริง แต่ตอบโจทย์การใช้งานที่มากกว่าเดิม ทั้งเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานเป็นโครงสร้างได้ดีทีเดียว การทนต่อน้ำและแสงแดดได้ดี ทำให้ในปัจจปัจจุบันมีการใช้งานไม้เทียมเพื่อปูพื้นภายนอก พื้นสระว่ายน้ำ พื้นระเบียง กันอย่างมากมาย
  2. กระเบื้องเซรามิก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกปูพื้นภายนอกที่คนนิยมเลือกใช้งาน ด้วยราคาที่ค่อนข้างถูกและหาซื้อได้ง่ายกว่ากระเบื้องประเภทอื่น ๆ ข้อควรระวังสำหรับการใช้งานภายนอกต้องเลือกกระเบื้องเซรามิคที่มีคะแนน PEI ที่สูงหน่อย ช่วยบ่งชี้ว่ามีความแข็งแรงที่เพียงพอกับงานพื้นด้านนอก
  3. หญ้าเทียม หากชื่นชอบงานตกแต่งด้วยต้นไม้ใบหญ้า นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับงานปูพื้นภายนอกที่สะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติได้ดีทีเดียว  ไม่ต้องกังวลเรื่องของความแข็งแกร่ง ทนทาน แบบกระเบื้องว่าจะแตกหรือหักง่ายไหม ไม่ต้องใส่ใจหรือค่อยเฝ้าดูแลรักษาเหมือนหญ้าจริง ที่ต้องมั่นรดน้ำ ตัดไม้ ตัดใบ หรือเก็บกวาดทุกวัน
  4. หินแกรนิต งานตกแต่งหินธรรมชาติที่มีความแข็งแรงทนทานค่อนข้างสูง เป็นวัสดุระดับพรีเมี่ยม สะท้อนความงาม ความเป็นธรรมชาติผ่านเนื้อหิน การดูแลรักษาก่อนเลือกใช้งานหินแกรนิตสำหรับปูพื้นภายนอก ต้องปิดร่อง หรือ ยาแนว รอยต่อ หรือ บริเวณที่เป็นร่องอย่างดี เพราะหินแกรนิตเนื้อจะค่อนข้างพรุน ต้องปิดรอยเพื่อป้องกันน้ำซึม
  5. กระเบื้องซีเมนต์ กระเบื้องคอนกรีต เป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมในการใช้ปูพื้นภายนอก ด้วยผิวหน้ากระเบื้องที่ค่อนข้างหยาบและมีสีซีเมนต์ หรือ สีคอนกรีีต ทำให้เก็บฝุ่น หรือ ซ่อนฝุ่น ได้ดีกว่าวัสดุปูพื้นประเภทอื่น ๆ ช่วยให้พื้นดูสกปรกยากกว่าพื้นทั่วไป ง่ายกับการดูแลรักษา
  6. บล็อกปูพื้น เป็นวัสดุปูพื้นที่ภายนอกที่มีความแข็งแรง ทนทาน อายุใช้งานยาวนาน กว่าวัสดุประเภทอื่น ๆ บล็อกปูพื้น มีหลายรูปลักษณ์ ทำให้เทคนิคการปูพื้นสามารถปรับแต่งรูปแบบได้หลากหลาย จะปูสลับด้วยแผ่นบล็อกปูทางเท้า หรือ ปูขัดด้วยบล็อกตัวนอน หรือ ปูให้หญ้าขึ้นแทรกแสมด้วยบล็อกปูหญ้า ก็ได้เช่นกัน

 

วิธี คำนวณ พื้นที่ ตรม หาปริมาณ กระเบื้อง แบบง่าย ๆ

คำนวณ พื้นที่ ไม่เป็น ? เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านจะต้องประสบปัญหาเดียวกันนี้แน่ ๆ อยากตกแต่งต่อเติมพื้นห้อง แต่ติดที่ไม่รู้ สูตรหาพื้นที่ ไม่รู้ วิธีคิด คำนวณหา ตารางเมตร ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อกระเบื้องจำนวนเท่าไหร่ถึงจะใช้ได้พอดีกับพื้นที่ห้อง บางคนไปซื้อเองโดยไม่มีความรู้หรือสอบถามช่างก่อน ซื้อ กระเบื้อง ขาดไม่พอกับการใช้งานก็ต้องกลับไปซื้อใหม่ เผลอ ๆ ซวยหนัก แบบลายกระเบื้องที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ของหมดก็ต้องรอเวลาร้านเอามาลงใหม่อีก แต่ก็ยังไม่แย่เท่ากับการซื้อเกิน นอกจากสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุแล้ว ยังต้องหาที่เก็บให้รกบ้านอีก สำหรับวันนี้เราจึงมี วิธีคิดตารางเมตร สำหรับปูพื้นกระเบื้องมาฝากกันครับ เพื่อให้คุณซื้อกระเบื้องได้พอดิบพอดีไม่เหลือไม่ขาด รับรู้ต้นทุนและประมาณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ก่อนการตกแต่งต่อเติม

คำนวณ พื้นที่ เป็น ตารางเมตร หาจำนวน กระเบื้อง ที่ต้องใช้ปูพื้นแบบง่าย ๆ

คำนวณ พื้นที่ หน่วย คือ ตารางเมตร

ก่อนที่จะไปเลือกซื้อกระเบื้อง ลำดับแรกที่เราจำเป็นต้องทราบคือ หน่วยของพื้นที่ใช้สอย ซึ่งหน่วยนี้เรียกว่า ตรม โดยปกติที่อยู่อาศัยจะมีการแจ้งว่ามีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกี่ตารางเมตร ซึ่งหน่วยตารางเมตรเกิดจากด้านกว้างและด้านยาวของพื้นที่นำมาคูณกันก็จะได้พื้นที่ทั้งหมด (ตารางเมตร) เมื่อทราบตารางเมตรของพื้นที่ที่ต้องการแล้ว จึงจะสามารถคำนวณการซื้อกระเบื้องได้อย่างถูกต้อง

 

หลักการ
( พื้นที่ทั้งหมด = ด้านกว้าง X ด้านยาว )

 

ยกตัวอย่าง เช่น ห้องนั่งเล่นกว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร คำนวณพื้นที่เป็นตารางเมตร เท่ากับ กว้าง (W) 10 x ยาว (H) 10 = ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ 100 ตารางเมตร (m2) ต้องการปูพื้นใหม่ทั้งหมด โดยสนใจ กระเบื้องยางลายไม้ MC-BF ซึ่ง 1 กล่อง สามารถปูได้ 5 ตารางเมตร (m2) สามารถหาปริมาณกระเบื้องที่ต้องซื้อได้โดยเอาพื้นที่ที่ต้องการปู (100) ÷ จำนวน ตารางเมตรต่อกล่อง (5) = 20 ซึ่งเป็นปริมาณกล่องที่จำเป็นต้องซื้อ แต่โดยปกติแล้วห้องส่วนใหญ่จะมีพื้นที่กว้าง  x  ยาวไม่เท่ากัน  ดังนั้น พื้นที่ทั้งหมดเลขจะไม่กลมเหมือนตัวอย่าง หากพื้นที่ที่ต้องการปู ÷ จำนวน ตารางเมตรต่อกล่องแล้วเหลือเศษให้ปัดขึ้นทันที นอกจากนี้การเลือกซื้อกระเบื้องควรเลือกซื้อเผื่อ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ใช้งาน สำหรับใช้ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดหรือตกแต่งเพิ่มเติม

VDO วิธีคิด สูตรหาพื้นที่ห้อง

เพื่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน เข้าใจในการหาพื้นที่สำหรับปูกระเบื้องได้อย่าง่ายดาย ทางเราได้จัดทำเป็น VDO เพื่อประกอบการเรียนรู้ โดยมีรายละเอียดการสอนในเนื้อหา หาพื้นที่ หา ตรม. จาก กว้าง x ยาว นอกจากนี้ยังมีการหาพื้นที่รูปแบบ ด้าน x ด้าน การหาพื้นที่รูปแบบสามเหลี่ยม และการหาพื้นที่รูปแบบพิเศษ อีกด้วย เพื่อให้เข้ากับพื้นที่หน้างานและการคำนวนที่แตกต่างกันไป

คำนวนตารางเมตร สำหรับปูกระเบื้องและการหาค่าใช้จ่าย

ตัวอย่างการใช้งาน  โปรแกรมคํานวณตารางเมตร

หัวข้อ รูปแบบ One or multiple rooms เลือก One room/area
หัวข้อ รูปแบบ เลือก Rectangle
หัวข้อ กว้าง / ยาว ในที่นี่ผมจะกำหนดห้องกว้าง 10 (m) และยาว 5 (m)
หัวข้อ ปริมาณ เลือก 1 (เลือกปูห้องนอน 1 ห้อง)
หัวข้อพื้นที่ตารางเมตร ระบบคำนวนพื้นที่ตารางเมตรออกมาเป็น 50 ตร.ม.
หัวข้อ ราคาต่อตารางเมตร ในที่นี้ผมสนใจกระเบื้องยางลายไม้ MC-M ซึ่งมีราคา 1,150 ต่อกล่อง 1 กล่องสามารถปูได้ 5 ตร.ม. เอาราคา 1,150 ÷ 5 จะได้กระเบื้องยางลายไม้ MC-M 230 บาทต่อตารางเมตร นำกรอกในหัวข้อ ราคาต่อตารางเมตร
หัวข้อ ราคารวม ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกมาเป็น 11,500 บาท โดยคิดเป็นราคาต่อตารางเมตรไม่ใช่ราคาต่อกล่อง
กรณีอยากคิดราคาต่อกล่อง นำตาราเมตรที่ได้ในที่นี้พื้นที่ห้องนอนของผมคือ 50 ตร.ม. ÷ 5 คือ ตร.ม. ต่อกล่องของกระเบื้องยางลายไม้ MC-M จะได้จำนวนกล่องที่ต้องใช้  = 10 กล่อง x ด้วยราคากล่องในที่นี้คือ 1,150 เท่ากับต้องซื้อ 10 กล่องในราคา 11,500 บาท
Back to Top

นโยบายการคืนเงิน

เงื่อนไขการคืนเงิน

  1. กรณีลูกค้าเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต

1.1 หากมีการยกเลิกรายการก่อนทำการบรรจุสินค้าลงกล่อง ทางบริษัทฯ จะทำการคืนวงเงินกลับไปยังบัญชีบัตรเครดิตภายในวันทำการถัดไป

1.2 กรณีที่มีการคืนสินค้าหลังได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงคืนวงเงินไปยังบัญชีบัตรเครดิต หรือ Paypal ของลูกค้าภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

  1. กรณีลูกค้าชำระด้วยวิธีการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 1

2.1 สำหรับรายการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

2.2 สำหรับรายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบและยืนยันการรับคืนสินค้า

เงื่อนไขการรับประกัน

บริษัทฯ รับประกันสินค้าเป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้า และมีเงื่อนไขและข้อกำหนดดังนี้

  1. ภายใต้ระยะเวลาของการรับประกัน บริษัทฯ อาจทำการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ
  2. หลังจากซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า การนับระยะเวลารับประกันจะเริ่มนับต่อเนื่องจากที่เหลืออยู่
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนสินค้า โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของบริษัทฯ
  4. สินค้าที่ส่งเคลม จำเป็นต้องทิ้งไว้เพื่อตรวจสอบความบกพร่องหรืออาการเบื้องต้นก่อน
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าที่เสียหายที่อยู่นอกข่ายการรับประกัน หรือ สินค้าที่หมดประกันแล้ว

การรับประกันที่ถือเป็นโมฆะตามเงื่อนไข

  1. สินค้าไม่มี void รับประกันของบริษัทฯ หรือไม่มีหมายเลขเครื่องสินค้า (S/N) หรือสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯหรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นสินค้าของบริษัทฯ
  2. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากการดัดแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซม โดยบุคคลที่ไม่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ การแกะ/ชำแหละ/ดัดแปลงแปลงแก้ไขโดยผู้ใช้
  3. สินค้าที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ น้ำ อาหาร ความชื้น อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป
  4. สินค้าที่เสียหายจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การติดตั้งผิดพลาด การตกกระแทกแตกหักเสียหาย สัตว์เลี้ยงกัดแทะ ฯลฯ มีผลให้สินค้าเสียหาย เป็นต้น

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ จะพยายามอธิบายผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำบรรยายผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์จะปราศจากข้อผิดพลาดทั้งมวล ดังนั้นหากท่านไม่พอใจในสินค้า หรือเห็นว่าไม่ตรงกับคำบรรยาย บริษัทฯ ยินดีที่จะรับคืนสินค้า (ตามเงื่อนไขการเปลี่ยน คืนสินค้า) เช่นเดียวกัน บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะแสดงรูปภาพสินค้าที่มีสีที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง แต่สีที่แสดงบนหน้าจอของท่านอาจผิดเพี้ยนได้ตามการตั้งค่าของหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันไป

  1. การป้องกันการฉ้อโกง
    บริษัทฯ มีกระบวนการตรวจสอบการฉ้อโกงหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือระงับคำสั่งซื้อ หากตรวจพบบัญชีที่มีประวัติการฉ้อโกง และฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทฯ อาจติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้ท่านยืนยันคำสั่งซื้อได้ บริษัทฯ อาจยกเลิกบัญชีของผู้ใช้บริการ หากตรวจพบการฉ้อโกงหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯ บังคับใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการของเรา รวมทั้งบริษัทฯ เองจากการถูกต้มตุ๋น หลอกลวง หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  2. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
    บริษัทฯ ยินดีรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากท่านเกี่ยวกับเว็บไซต์ สินค้าและบริการของบริษัทฯโดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่ถือเป็นความลับ และอาจถูกนำไปใช้ ดัดแปลง ทำซ้ำ และเผยแพร่ได้เพื่อจุดประสงค์ใดๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่เชื่อมโยงชื่อนามสกุลของท่านกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของท่าน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อนเว้นแต่ในกรณีที่เป็นการขัดต่อข้อกฎหมายเท่านั้น

นโยบายการจัดส่ง

บริษัทฯ ยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 14 วันหลังจากการสั่งซื้อ ตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ทางบริษัทฯจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าผิดจากรายละเอียดจากการยืนยันการสั่งซื้อครั้งล่าสุดจากทางบริษัท ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
  2. ในกรณีที่มีปัญหาจากตัวสินค้าชำรุดเสียหายเนื่องจากการผลิต หรือสินค้าเกิดความเสียหายเนื่องจากการขนส่งจากทางบริษัท ทางบริษัทฯยินดีที่จะรับเปลี่ยนและจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ให้กับลูกค้าใหม่ภายใน วันทำการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ